การศึกษาเปรียบเทียบประเพณีพื้นบ้านของชาวไทยพวนบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ประเทศไทย กับชาวลาวพวนเชียงขวาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
คำสำคัญ:
ประเพณีพื้นบ้าน, ชาวไทยพวนบ้านหมี่, ชาวลาวพวนเชียงขวางบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบริบททั่วไป ประเพณีพื้นบ้าน และเปรียบเทียบประเพณีพื้นบ้านของชาวไทยพวน จังหวัดลพบุรี ประเทศไทย กับชาวลาวพวนเชียงขวาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำการศึกษาภาคสนามที่อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี กับแขวงเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวบรวมข้อมูลใช้การสังเกต และสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 30 คน ประกอบการบันทึกภาพและเสียง แล้วนำมาวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า บริบท 2 พื้นที่เหมือนกันเกี่ยวกับภาษาพวนซึ่งแสดงอัตลักษณ์ของชาวพวน 2 พื้นที่ แต่ต่างกันในเรื่องสภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การเมืองและเศรษฐกิจ เชียงขวางตั้งอยู่บนพื้นที่ราบโอบล้อมด้วยภูเขา เคยผ่านภาวะสงคราม และอยู่ภายใต้การปกครองระบอบสังคมนิยม ขณะที่บ้านหมี่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบลุ่ม รวมกลุ่มกันเป็นปึกแผ่น และอยู่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทั้ง 2 พื้นที่พยายามรื้อฟื้นรูปแบบประเพณีดั้งเดิมไว้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบประเพณีพื้นบ้านของชาวพวนทั้ง 2 พื้นที่ จะพบว่า ลาวพวนเชียงขวาง และไทยพวนบ้านหมี่ได้พยายามแสดงบทบาทหน้าที่รวมพลังศรัทธาของชุมชน ได้อย่างเข้มแข็ง ในการอนุรักษ์ประเพณีที่สำคัญบนความศรัทธา ซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตและชุมชนชาวพวนทางด้านจิตใจและปัญญา โดยเชื่อว่าเมื่อประกอบพิธีกรรมแล้วจะเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว บ้านเมืองจะอยู่เย็นเป็นสุข สร้างความมั่นใจในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เกิด ความอุดมสมบูรณ์ของน้ำและพืชพันธุ์ธัญญาหาร เสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชนที่ร่วมจัดงาน และร่วมกันพัฒนาชุมชน ด้วยความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน ตลอดจนแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจที่ช่วยให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข แต่ประเพณีพื้นบ้านบางอย่าง ของลาวพวนในปัจจุบัน เชียงขวางถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการผสมกลมกลืนกับวัฒนธรรมลาว
เอกสารอ้างอิง
for Local Products and Tourism in the Central Region: Dimensional Relationships between Nostalgic Phenomena and Creative Economics”. Journal of Arts. 42(2): 103-132.
Na Talang, Siraphorn. (Ed.). (2013, July – December). “Creative Folklores,” Journal of Arts
42(2): 1-74.
Nohkham, Chao Khamluang. (2012). The History of Phuan City. Bangkok: Ruen Kaew Publishing.
Phuan Society of Thailand. (2014). Reports of Thai Phuan Activities in the year of 2014: N.p.
Sathienkoseth. (2003). Miscellaneous Traditions. Bangkok: Siam Publishing.
Udomsin, Warawan. (2005). A Critical Study of Thai Puan Jataska Fables of Ban Muang Khao, Tumbon Khokpeeb, Amphur Si Mahosot, Prachinburi Province. Unpublished Master thesis, Department of Thai Language, Srinakharinwirot University.
Wanliphodom, Seesak. (2000). Unorthodox Outlook: Cultural Society in the Conservation Path. Bangkok: Mueng Boran Publishing.
Wongthed, Sujit. (Ed.). (2001). Poetry of Muang Phuan . Wiang-Jan: Department of Loa Language-Literature, Faculty of Arts, National University of Loas. (NUOL).
Conversation of the Elders of Lao Phuan, Chieng Khwang. (2014, May 28th). An Interview.
Joomthong, Somkhit. (2014, May 4th). The Creator of Thai Phuan Museum, Ban Sai. An Interview.
Lainamngeun, Phairote. (2014). The Creator of Thai Phuan Museum, Ban Phon Thong. An Interview.
Phathrachai, Sukanya. (2014, December 18th). Former Director of Folklore Center, Faculty of Arts, Chulalongkorn University. An Interview.
Sansathit, Sawang. (2014, April 22nd). The Party of The Ministry of Foreign Affairs, The Lao People's Democratic Republic. An Interview.
Sukhanthawiphat, Chinnabun. (2014, August 24th). The Leaders of Ban Hin Pak Yai Community. An Interview.

