คะแนนการกำกับดูแลกิจการและปัจจัยที่มีบทบาท ต่อมลูค่าธุรกิจบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย

ผู้แต่ง

  • ภัทรพงศ์ เจริญกิจจารุกร

คำสำคัญ:

มูลค่าธุรกิจ, บริษัทจดทะเบียน, คะแนนการกำกับดูแลกิจการ

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส ารวจและศึกษาเปรียบเทียบคะแนนการก ากับดูแลกิจการกับ
มูลค่าธุรกิจ โดยใช้ฐานข้อมูลประชากรบริษัทจดทะเบียน ปี พ.ศ. 2558 เป็นเกณฑ์ รวมจ านวน 635
บริษัท และรวบรวมข้อมูลย้อนหลังถึง ปี พ.ศ. 2556 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ พิจารณา
จากข้อมูลรายบริษัทที่มีข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ ที่ได้รับการประเมินคะแนนด้านการก ากับดูแลกิจการที่
ดีจากผลส ารวจของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย จ านวน 399 บริษัท โดยแบ่งการ
วิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. การวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ผลจาก
การศึกษาพบว่า ในภาพรวมบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประเมินคะแนนด้านการก ากับดูแลกิจการที่ดี
ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง รองลงมา คือ กลุ่มอุตสาหกรรม
เทคโนโลยี และกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน ตามล าดับ หากจ าแนกตามกลุ่มดัชนีSET 50 บริษัทจด
ทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากรได้รับคะแนนประเมินมากที่สุด รองลงมา คือ กลุ่มอุตสาหกรรม
อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ในขณะที่จ าแนกตามกลุ่มดัชนีSET 100
บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประเมินคะแนนด้านการก ากับดูแลกิจการที่ดีมากที่สุด คือ กลุ่ม
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ และกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
ตามล าดับ 2. การทดสอบสมมติฐาน (Hypothesis Testing) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคะแนน
การก ากับดูแลกิจการกบั มูลค่าธุรกจิผ่านปจัจยัตวัแปรควบคุม โดยการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิง
เส้นตรงอย่างง่าย (Simple Linear Regression) พบว่า คะแนนการก ากับดูแลกิจการสามารถอธิบาย
มูลค่าธุรกิจได้ 11.30% ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ นอกจากนี้ยังพบว่า
ทุนจดทะเบยี นเป็นปจัจยัท่มี บี ทบาทต่อมูลค่าธุรกิจมากกว่าสดัส่วนการถือหุ้นรายใหญ่ และสัดส่วน
กรรมการอิสระ ในขณะที่การทดสอบความแตกต่างของกลุ่มอุตสาหกรรม โดยใช้สถิติไคสแควร์ (ChiSquare)
ทดสอบหาความแตกต่างของกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มดัชนีSET 50 และ SET 100 ว่าส่งผลต่อ
คะแนนการก ากับดูแลกิจการกับมูลค่าธุรกิจหรือไม่ พบว่า ไม่พบความแตกต่างของกลุ่มอุตสาหกรรม
ต่างๆ ที่ส่งผลต่อคะแนนการก ากับดูแลกิจการกับมูลค่าธุรกิจ ยกเว้นกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภค
บริโภคและกลุ่มหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ไม่ปรากฎบริษัทจดทะเบียนที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มดัชนี SET 50
และ SET 100

เอกสารอ้างอิง

ชนิศา เด่นกีรติ. 2546. มูลค่าของบริษัทกับการก ากับดูแลกิจการ: การศึกษาจากตลาด
หลักทรพั ย์แห่งประเทศไทย. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ณิชนันท์ จันทรเขตต์. 2554. การศึกษาความสมั พนั ธ์ระหว่างการกา กบั ดูแลกิจการกบั ผลการ
ดา เนินงานของบริษทั จดทะเบียนในตลาดหลกัทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทย กลุ่ม SET 100.
สืบค้นวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 จาก https://eprints.utcc.ac.th/90/37/90fulltext.pdf
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. 2559. บริษทั/หลกัทรพั ยจ์ ดทะเบียนเข้าใหม่. สืบค้นวันที่ 30
พฤษภาคม 2559 จาก https://www.set.or.th/set/ipo.do
_______. 2558. SET50 & SET100 Index Constituents. สืบค้นวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 จาก
https://www.set.or.th/th/market/files/constituents/SET50_100_H2_2015.pdf
_______. 2555. หลกัการกา กบั ดแู ลกิจการที่ดีสา หรบั บริษทั จดทะเบียน ปี2555. สืบค้นวันที่ 22
กรกฎาคม 2558 จาก https://www.set.or.th/sustainable_dev/th/cg/files/2013/CGPrinciple
2012Thai-Eng.pdf
นวลนภา อัครพุทธิพร และ ศิลปพร ศรีจั่นเพชร. 2550. คะแนนการประเมินการก ากับดูแลกิจการมี
ความสัมพันธ์กับมูลค่าของกิจการหรือไม่. วารสารวิชาชีพบญั ชี. ปีที่ 3. ฉบับที่ 6/2550.
95-106.
พรพิชยา กุวลัยรัตน์, สุภารตัน์ตนั ทนงศกัดกิ์ุล, และ สันติ ถิรพัฒน์. 2556. โครงสร้างผู้ถือหุ้น ความ
น่าจะเป็นของการล้มละลายและมูลค่าของกิจการ. จุฬาลงกรณ์ธุรกิจปริทศั น์. ปีที่ 35. ฉบับ
ที่ 2/2556. 1-31.
ภัทรพงศ์ เจริญกิจจารุกร. 2556. Sarbanes-Oxley Act และการก ากับดูแลกิจการในต่าง ประเทศสู่
ธรรมาภิบาลในประเทศไทย. จฬุ าลงกรณ์ธรุ กิจปริทศัน์. ปีที่ 35. ฉบับที่ 4/2556. 92-119.
สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย. 2559. หลักเกณฑ์การส ารวจ โครงการส ารวจการ
กา กบั ดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย. สืบค้นวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 จาก
https://www.thai-iod.com/imgUpload/CGR%20of%20Thai%20Listed%20Companies.pdf
________. 2559. รายงานการกา กบั ดแู ลกิจการบริษทั จดทะเบียน ปี2556-2558. สืบค้นวันที่ 30
พฤษภาคม 2559 จาก https://www.thai-iod.com/th/publications.asp?type=4
Brown, L. D. and Caylor, M. L. 2004. Corporate Governance and Firm Performance.
Retrieved December 7, 2004 from https://w.trustenablement.com/local/GSU_ISS_
Study.pdf
Gompers, P. A., Ishii, J. L., and Metrick, A. 2003. Corporate Governance and Equity Prices.
Journal of Economics. Vol. 118. No. 1. 107-156.
Jensen, M. C., and Meckling, W. H. 1976. Theory of the firm: Managerial behavior, agency
costs and ownership structure. Journal of Financial Economics. Vol. 3. No. 4. 305-
360.
Klapper, L. F., and Love, I. 2002. Corporate Governance, Investor Protection, and
Performance in Emerging Markets. World Bank, Washington: DC.
Montgomery, D. C., Peck, E. A. and Vining, G. G. 2001. Introduction to Linear Regression
Analysis. 3rd ed. New York: John Wiley & Sons.
Omran, M. M., Bolbol, A. C., Fatheldin A. C. 2008. Corporate governance and firm
performance in Arab equity markets: Does ownership concentration matter?.
International Review of Law and Economics. Vol. 28. No. 1. 32–45.
Organization for Economic Co-operation and Development. 2015. G20/OECD Principles of
Corporate Governance. Retrieved September 27, 2015 from https://www.oecd.org/
daf/ca/Corporate-Governance-Principles-ENG.pdf
Thomsen, S., Pedersen, T., and Kvist H. K. 2006. Blockholder ownership: Effects on firm value
in market and control based governance systems. Journal of Corporate Finance.
Vol. 12. No. 2. 246-269.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-07-18

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research Article)