การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเครื่องมือทางเทคนิคสำหรับการ คาดคะเนราคาหลักทรัพย์กลุ่มทรัพยากรหมวดธุรกิจพลังงาน และสาธารณูปโภคของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คำสำคัญ:
การวิเคราะห์ทางเทคนิค, ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยบทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องมือทางเทคนิค 6 ชนิด คือ MACD (Moving Average Convergence Divergence), Moving Average (MA), Bollinger Bands, Relative Strength Index (RSI), Fast Stochastic และ Slow Stochastic เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy & Utilities) ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ที่สูงสุด 5 อันดับแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า เครื่องมือที่ให้ผลความถูกต้องมากที่สุด คือ RSI (Relative Strength Index) มีค่าความถูกต้องร้อยละ 76.5 ส่วน MACD (Moving Average Convergence Divergence) ให้ผลความถูกต้องน้อยที่สุดคือร้อยละ 33 ในขณะที่การจำลองการซื้อขายโดยใช้เครื่องมือ RSI (Relative Strength Index) จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยมากที่สุดที่ร้อยละ 22.78 ส่วนเครื่องมือทางเทคนิคที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ เครื่องมือทางเทคนิค Moving Average (MA 25 วัน) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบร้อยละ 29.63 ทั้งนี้เพื่อทดสอบผลการศึกษาที่ได้ ผู้วิจัยจึงนำเครื่องมือทางเทคนิคที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในแต่ละหลักทรัพย์มาจำลองการซื้อขายกับตลาดปัจจุบันพบว่า ผลตอบแทนที่ได้มีความสอดคล้องกับการจำลองการซื้อขายในอดีต คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเมื่อใช้เครื่องมือ Bollinger Bands ส่วนบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ใช้เครื่องมือ RSI (Relative Strength Index) จะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ข้อความ ข้อคิดเห็น ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ แผนภูมิ แผนผัง เป็นต้น ที่ปรากฏและแสดงในบทความต่างๆ ในวารสารบริหารธุรกิจเทคโนโลยีมหานคร ถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนบทความนั้นๆ มิใช่เป็นความรับผิดชอบใดๆ ของวารสารบริหารธุรกิจเทคโนโลยีมหานคร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารบริหารธุรกิจเทคโนโลยีมหานคร ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครก่อนเท่านั้น