การวิเคราะห์องค์ประกอบของปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ (Exploratory Factor Analysis: EFA) และองค์ประกอบเชิงยืนยัน (Confirmatory Factor Analysis: CFA) ของปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในจังหวัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริโภคที่จดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในจังหวัดกรุงเทพมหานครระหว่างปี พ.ศ. 2564 – 2567 จำนวนทั้งสิ้น 400 ราย โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างมีระบบ และเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงและเชื่อมั่น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา การวิเคราะห์องค์ประกอบ และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1. ปัจจัยด้านศักยภาพและราคาของรถยนต์ไฟฟ้า 2. ปัจจัยด้านหน้าที่และประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้า 3. ปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือของรถยนต์ไฟฟ้า 4. ปัจจัยด้านการให้บริการของรถยนต์ไฟฟ้า ในองค์ประกอบด้านการให้บริการ พบว่ามีตัวแปรสังเกตได้ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมีนัยสำคัญ เช่น ประสิทธิภาพของศูนย์บริการ ความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือ ความสะดวกในการเข้าถึง การให้คำแนะนำของพนักงาน และมารยาทในการให้บริการ โดยค่า Factor Loading ของตัวแปรกลุ่มนี้อยู่ในระดับสูง (0.75 – 0.90) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงต่อคุณภาพของบริการหลังการขาย โดยเฉพาะในบริบทของผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเชิงเทคโนโลยีอย่างรถยนต์ไฟฟ้า โมเดลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของการตัดสินใจซื้อมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (χ²/df = 1.83, GFI = 0.92, AGFI = 0.90, RMSEA = 0.045) ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ สะท้อนถึงความเหมาะสมของโมเดลในการอธิบายพฤติกรรมการตัดสินใจของผู้บริโภค ผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยเน้นการยกระดับคุณภาพการให้บริการ การเพิ่มความครอบคลุมของศูนย์บริการ และการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค อันจะส่งผลให้การยอมรับและการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว