แนะนำหนังสือ ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
Main Article Content
บทคัดย่อ
พุทธศาสนาในดินแดนล้านนานั้น นักมานุษยวิทยาศาสนาและนักประวัติศาสตร์ เสนอกันว่า อาจจะแยกพิจารณาออกเป็น 3 ยุคสมัยด้วยกัน คือ 1.พุทธศาสนายุคก่อนพญากือนา (ก่อน พุทธศักราช 1898) ซึ่งได้รับอิทธิพลสูงมากจากพุทธศาสนาที่มีพัฒนาการขึ้นอย่างเจริญรุ่งเรืองในหริภุญไชยนคร (ดังกล่าวข้างต้น) พุทธศาสนา “เถรวาทแบบมอญ” นี้มีลักษณะผสมผสานระหว่างหินยานและมหายาน จนไปถึงความเชื่อดั้งเดิมของชนพื้นเมือง เช่นเรื่อง การนับถือและเซ่นไหว “ผีเจ้าที่” และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ ดังปรากฏร่องรอยสืบต่อมาในพิธีกรรม ความเชื่อ หรือประเพณี วัฒนธรรม ในพุทธศาสนาของชาวล้านนา 2.พุทธศาสนาลังกาวงศ์เก่า หรือ “เถรวาทแบบล้านนาเดิม” ที่เริ่มสถาปนาขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญตั้งแต่สมัยพญากือนา (พุทธศักราช 1898 – 1928) จนมาถึงสมัยพญาแสนเมืองมา (พุทธศักราช 1929-1945) ซึ่งบางตำนาน เช่นในตำนานพระเจ้าเลียบโลกเรียกว่า “พญาล้านนา” เป็นพุทธศาสนาเถรวาท ที่พระสงฆ์เชียงใหม่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากพระสงฆ์สุโขทัย คือ พระสุมนะเถระ ซึ่งพญากือนาได้สร้างวัดตั้งเป็นสำนักวิชาศูนย์การศึกษาพระธรรมคำสอนและเผยแผ่ศาสนานิกายนี้ที่ “”วัดสวนดอก” โดยทั่วไปในหลานตำนานจึงมักจะกล่าวถึงสำนักเถรวาทล้านนาที่พัฒนาขึ้นในยุคนี้ว่า “สำนักวัดดอก” และ 3.พุทธศาสนาเถรวาทลังกาวงศ์ใหม่ ที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างมากจากยุคพญาแสนเมืองมา พญาสามฝั่งแกน (พุทธศักราช 1945 - 1984) และโดยเฉพาะในสมัย พญาติโลกราช (พุทธศักราช 1984 - 2030) จนมาถึงสมัยพญาแก้ว หรือพระเมืองแก้ว (พุทธศักราช 2038 - 2068) ที่เรียกกันว่า “ลังกาวงศ์ใหม่” เนื่องจากกษัตริย์ล้านนาเชียงใหม่ได้ส่งพระสงฆ์เดินทางไปศึกษาร่ำเรียนโดยตรง และนำอารยธรรมภาษาพุทธศาสนาจากศรีลังกานิกายสิงหล กลับมาศึกษาและเผยแผ่ สถาปนาพุทธศาสนาแบบล้านนาขึ้น กระทั่งแพร่กระจายออกจากล้านนาลุ่มน้ำปิง ไปตามเครือข่ายหัวเมืองต่างๆ ของชาวไท ในดินแดนลุ่มน้ำโขงตอนบน จนถึงล้านช้าง และสิบสองปันนา
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อเขียนทั้งหมดทีปรากฏในวารสารสังคมศาสตร์ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ มิใช่ทัศนคติของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือกองบรรณาธิการวารสารสังคมศาสตร์