การออกแบบพัฒนาแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริงเรื่องแสงและเงาเพื่อพัฒนาผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5

Main Article Content

อาจารีย์ ทองอ่อน
เพ็ญศรี ประมุขกุล

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบพัฒนาแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริง โดยศึกษาหาประสิทธิภาพของแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริงเรื่องแสงและเงา (E1/E2) ตามเกณฑ์ 80/80 ศึกษาหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริงเรื่องแสงและเงา กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนวิชาฟิสิกส์ โรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 22 คน การวิเคราะห์ผล ได้วิเคราะห์จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน การทำใบงาน การทำแบบทดสอบหลังเรียน และคำตอบจากแบบสำรวจความพึงพอใจที่มีต่อการใช้แบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริง
เรื่อง แสงและเงา จากการวิจัยพบว่า (1) ค่าประสิทธิภาพของแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริง เรื่อง แสงและเงา
มีค่าเท่ากับ 92.27/75.00 (2) นักเรียนส่วนใหญ่มีค่าความก้าวหน้าทางการเรียนอยู่ในกลุ่ม Medium gain
(3) นักเรียนให้ผลความพึงพอใจในเชิงบวกที่ระดับคะแนนเฉลี่ย 3.99 และผลความพึงพอใจในเชิงลบที่ระดับคะแนนเฉลี่ย 1.90 แสดงผลว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริงในระดับพึงพอใจมาก แสดงให้เห็นว่าแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริงเรื่องแสงและเงา นี้มีความเหมาะสมสำหรับนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอนของนักเรียนที่เรียนวิชาฟิสิกส์ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จุฬาลักษณ์ ยิ้มดี. 2556. ผลของการเรียนการสอนโดยใช้ขั้นการเรียนรู้แบบอนุมานเบื้องต้นที่มีต่อความสามารถในการให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย. วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตร มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชัยยงค์ พรหมวงค์. 2566. การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 5(1): 7-20.

ชาญวิทย์ คำเจริญ. 2563. การตรวจสอบการใช้แบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริง สำหรับการสอนไฟฟ้ากระแสตรง. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 31(2): 25-37.

ณัฐดนัย นิรุตติ์เมธีกุล และอรรถกานท์ ทองแดงเจือ. 2023. การพัฒนามโนมติทางวิทยาศาสตร์ ด้วยวัฏจักรการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น ผสมผสานกับสถานการณ์จำลองแบบมีปฏิสัมพันธ์ของ PhETของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. Journal of Education Studies. 1(1): 39-53.

ดาวรถา วีระพันธ์ และโยธิน กัลยาเลิศ. 2561. ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง คลื่น รายวิชาฟิสิกส์พื้นฐานร่วมกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 12(2): 68-81.

วรพงศ์มาลัยวงษ์. 2562. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบเกมการสอนบูรณาการสะเต็มศึกษากับการจัดการเรียนรู้แบบปกติเรื่องการผลิตไฟฟ้า. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 8(2): 251-264.

อัศวรัฐ นามะกันคำ. 2550. การเปรียบเทียบความเข้าใจเชิงแนวคิดเรื่องวงจรไฟฟ้ากระแสตรง. วิทยานิพนธ์ ปริญญาวิทยาศาสตร มหาบัณฑิต (การสอนฟิสิกส์). เชียงใหม่: บัณฑิตวิทยาลัย.

Redish, E.F. 1992. Implications of cognitive studies for teaching physics. American Journal of Physics, 62: 796.

Richard R. H. 1998. Interactive-engagement versus traditional methods: A six-thousand-student survey of mechanics test data for introductory physics courses. American Association of Physics Teachers, 66 (1): 64-74.