การทำหน้าที่ของเครือข่ายทางสังคม การเห็นคุณค่าในตนเอง และความซื่อสัตย์ของเยาวชนในตำบลหินตั้ง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการทำหน้าที่ของเครือข่ายทางสังคม ระดับของการเห็นคุณค่าในตนเอง และระดับความซื่อสัตย์ของเยาวชน 2) ศึกษาเปรียบเทียบความซื่อสัตย์ของเยาวชน 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการทำหน้าที่ของเครือข่ายทางสังคมและความซื่อสัตย์ของเยาวชน ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างการเห็นคุณค่าในตนเองและความซื่อสัตย์ของเยาวชน และ 4) ศึกษาตัวแปรที่สามารถร่วมกันทำนายความซื่อสัตย์ของเยาวชน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ เยาวชนในตำบลหินตั้ง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 279 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบแบบที การวิเคราะห์ความแปรปรวน การทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีความแตกต่างนัยสำคัญน้อยสุด สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอนโดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการทำหน้าที่ของเครือข่ายทางสังคม และการเห็นคุณค่าในตนเองของเยาวชนอยู่ในระดับสูง ส่วนความซื่อสัตย์อยู่ในระดับปานกลาง 2) เยาวชนที่มีเพศ ระดับการศึกษาและสถานภาพสมรสแตกต่างกันมีความซื่อสัตย์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) การทำหน้าที่ของเครือข่ายทางสังคม และการเห็นคุณค่าในตนเองของเยาวชนมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความซื่อสัตย์ของเยาวชนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และ 4) การเห็นคุณค่าในตนเองด้านความรู้สึกว่าตนมีความสำคัญ การทำหน้าที่ของเครือข่ายทางสังคมด้านการสนับสนุนทางวัตถุ การทำหน้าที่ของเครือข่ายทางสังคมด้านการเข้าถึงข่าวสาร และการเห็นคุณค่าในตนเองด้านความรู้สึกว่าตนมีอำนาจ สามารถร่วมกันทำนายความซื่อสัตย์ของเยาวชนได้ร้อยละ 28.6
Functional Aspects of Social Networks, Self Esteem and Honesty of Youth in Hintang Sub District, Ban Phai District, Khon Kaen Province
The objectives of this study were as follows. First, it examined the level of functional aspects of social networks, self esteem, and honesty of youth. Secondly it compared the honesty of youth by their personal characteristics. Thirdly, it investigated the relationship between functional aspects of social networks and honesty of youth, and between self esteem and honesty of youth. Finally, it studied the predictive variables for the honesty of youth.
The samples consisted 279 youth at Hin Tang Subdistrict, Ban Phai District, Khon Kaen Province. The data were collected by using questionnaires and analyzed by using packaged computer program. Statistical procedures in this study were the percentages, the mean, the standard deviation, the t-test, the analysis of variance, the least significant difference method, Pearson’s product moment correlation coefficient, and the stepwise multiple regression analysis. Statistical significance was set at the 0.05 level.
Results found were as follows. Firstly, the functional aspects of social networks and self esteem of youth were at high level while honesty was moderate. Secondly, gender, level of education, and marital status significantly affected honesty at the 0.05 level, respectively. Thirdly, functional aspects of social networks and self esteem were positively correlated with honesty at the 0.001 level. Fourthly, the component of self esteem, namely, seeing oneself as important; the components of functional aspects of social networks, namely, material support and access to information; and the component of self esteem in terms of power could jointly predict 28.6 percent of honesty of youth.