ประกาศ:   ทางวารสารฯ เปิดรับบทความเพื่อตีพิมพ์วารสารฯ ปีที่ 50 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน พ.ศ. 2567) เป็นต้นไป

ออกใบตอบรับการตีพิมพ์ให้หลังผู้เขียนแก้ไขบทความที่ผ่านการ peer review (Double Blind Peer Review) หรือระยะเวลาประมาณ 2 เดือน

วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์: จัดทำโดย คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ISSN: 0125-2860 (ลิขสิทธิ์)

กำหนดออกเผยแพร่: 2 ฉบับ/ปี (ฉบับที่1 มกราคม-มิถุนายน และ ฉบับที่2 กรกฎาคม-ธันวาคม)

ขอบเขตของเนื้อหา: บทความวิจัยและบทความวิชาการทางด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ได้แก่ สาขาจิตวิทยา สังคมวิทยา มานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และสาขาสังคมศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ประเภทบทความที่เปิดรับ: 1) บทความวิจัย 2) บทความวิชาการ 3) บทความพิเศษ และ 4) บทแนะนำหนังสือและบทวิจารณ์หนังสือ

ภาษา: ภาษาไทย / ภาษาอังกฤษ

จำนวนผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ: 3 ท่าน/บทความ

วัตถุประสงค์: 
1) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คณาจารย์ นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป ได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและผลงานวิจัย
2) เป็นแหล่งในการเสนอผลงานรวมทั้ง แลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล ความคิดเห็นทางวิชาการและวิจัย อันจะเป็นการพัฒนาการศึกษาและการวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์

*ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์*

ปีที่ 49 ฉบับที่ 2 (2566): กรกฏาคม - ธันวาคม 2566

เผยแพร่แล้ว: 2023-12-26

ดูทุกฉบับ

.................................................................................................................................................................................................................................................................

ข้อควรทราบ: หลักจริยธรรมในการตีพิมพ์บทความวารสารฯ

ส่วนที่หนึ่ง หลักจริยรรมของกองบรรณาธิการวารสารฯ

1) กองบรรณาธิการต้องพิจารณาและตรวจสอบทุกบทความที่ส่งมาเพื่อเข้ารับการพิจารณาตีพิมพ์กับทางวารสารฯ โดยพิจารณาเนื้อหาบทความที่สอดคล้องกับเป้าหมายและขอบเขตของวารสาร รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพบทความในกระบวนการประเมินและคุณภาพบทความก่อนการตีพิมพ์

2) กองบรรณาธิการต้องตรวจสอบบทความในด้านความซ้ำซ้อนหรือในด้านการคัดลอกผลงานวิชาการ (Plagiarism) หากตรวจสอบพบความซ้ำซ้อนหรือการคัดลอกผลงานของผู้อื่นในกระบวนการประเมินบทความ บรรณาธิการต้องหยุดกระบวนการประเมิน และติดต่อผู้นิพนธ์หลักทันทีเพื่อขอคำชี้แจง เพื่อประกอบการ “ตอบรับ” หรือ “ปฏิเสธ” การตีพิมพ์บทความนั้น ๆ

3) กองบรรณาธิการต้องใช้เหตุผลทางวิชาการในการพิจารณาบทความทุกครั้ง โดยปราศจากอคติที่มีต่อบทความและผู้นิพนธ์ในด้านเชื้อชาติ เพศ ศาสนา วัฒนธรรม การเมือง และสังกัดของผู้นิพนธ์

4) กองบรรณาธิการต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เขียนบทความหรือผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ ไม่นำบทความหรือวารสารไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจหรือนำไปเป็นผลงานทางวิชาการของตนเอง

5) กองบรรณาธิการต้องไม่แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบทความและผลประเมินของผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงไม่ปิดกั้นหรือแทรกแซงข้อมูลที่ใช้แลกเปลี่ยนระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิและผู้นิพนธ์

6) กองบรรณาธิการต้องปฏิบัติตามกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ของวารสารอย่างเคร่งครัด

7) กองบรรณาธิการต้องรักษามาตรฐานของวารสารฯ รวมถึงพัฒนาวารสารให้มีคุณภาพและมีความทันสมัยอยู่สม่ำเสมอ

8) กองบรรณาธิการต้องเก็บข้อมูลทั้งตัวผู้เขียนบทความและผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความไว้เป็นความลับ ตามหลักมาตรฐานการปกปิดข้อมูลทั้งสองฝ่าย (Double-blind peer review)

 

ส่วนที่ 2 หลักจริยธรรมของผู้เขียนบทความ

1) ผลงานของผู้เขียนบทความต้องเป็นผลงานที่ไม่เคยตีพิมพ์หรือเผยแพร่ที่ใดมาก่อน รวมถึงไม่อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาตีพิมพ์ที่ใด

2) ผู้เขียนบทความต้องไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่น (Plagiarism) และต้องมีการอ้างอิงทุกครั้งเมื่อนำผลงานของผู้อื่นมานำเสนอหรืออ้างอิงในเนื้อหาบทความของตนเอง

3) หากผลงานทางวิชาการของผู้เขียนบทความเกี่ยวข้องกับการใช้สัตว์ ผู้เข้าร่วม หรืออาสาสมัคร ผู้เขียนบทความจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าได้ดำเนินการตามหลักจริยธรรมการวิจัย ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงต้องได้รับความยินยอมก่อนการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกครั้ง

4) ผู้เขียนบทความต้องปฏิบัติตามหลักและข้อปฏิบัติของทางวารสารฯ อย่างเคร่งครัด

5) ชื่อเขียนบทความและสังกัดที่มีการระบุอย่างชัดเจนในบทความต้องเป็นผู้ที่มีส่วนในผลงานวิชาการนี้จริง

 

ส่วนที่ 3 หลักจริยธรรมของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ

1) ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความต้องคำนึงถึงคุณภาพบทความเป็นหลัก พิจารณาบทความภายใต้หลักการและเหตุผลทางวิชาการโดยปราศจากอคติหรือความคิดเห็นส่วนตัว และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เขียนบทความ

2) ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความต้องไม่แสวงหาประโยชน์จากผลงานทางวิชาการที่ตนเองได้ทำการประเมิน

3) ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความต้องตระหนักว่าตนเองมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาของผลงานวิชาการที่รับประเมินอย่างแท้จริง

4) หากผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความตรวจสอบพบว่าบทความที่รับประเมิน เป็นบทความที่คัดลอกผลงานชิ้นอื่น ๆ (Plagiarism) ผู้ทรงคุณวุฒิต้องแจ้งให้กองบรรณาธิการทราบทันที

5) ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความต้องรักษาระยะเวลาประเมินตามกรอบเวลาประเมินที่กำหนด รวมถึงไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับรู้

(แหล่งข้อมูลอ้างอิง: ประยุกต์จากวารสารธรรมศาสตร์ ที่มา: หลักจริยธรรมในการตีพิมพ์ วารสารธรรมศาสตร์ )

.............................................................................................................................................................................................................................................................