การสังเคราะห์งานวิจัยด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสตรี A SYNTHESIS OF LOCAL WISDOM RESEARCHES ON WOMEN’S HEALTHCARE
Keywords:
Synthesis, Local Wisdom, Healthcare, WomenAbstract
This research’s purposes are to study a general data and to synthesize a body of knowledge of12 local wisdom researches, including 9 theses and dissertations and 3 research articles, on women’s healthcare from a thesis database called Thailand Digital Collection (TDC) from 2540 to 2560 B.E. The research results found that most research titles clearly indicated local wisdom on women’s healthcare. The majority of the researches was theses and dissertations published from 2551 to 2560 B.E., written by master and doctoral students from public universities and employed a qualitative approachusing analytical description. The sample group of most researches was puerperal women in a northeastern region. Moreover, the body of knowledge of the researches mainly focused on local wisdom related to puerperal practices divided into 13 issues: (1) food consumption, (2) lying by fire (yuu-fai), (3) warm water and herbal bath, (4) mother and infant-related rituals,(5) warm water and herbal drink, (6) relaxation and exercise, (7) herbal steam tent, (8) salt pot compression, (9) body and herbal massage, (10) sitting over charcoal (11) herbal ball compression, (12) gynecological tumor incidence and (13) herbal plants for women’s healthcare.
Downloads
References
[2] กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. (2559). ความรู้และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล: มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ. กรุงเทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์.
[3] สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2556). แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลหญิงหลังคลอด. สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2561, จาก https://www.nhso.go.th/files/userfiles/file/แพทย์แผนไทย/CPG_MOM.pdf
[4] สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2561). หลักประกันสุขภาพ 10 เรื่องที่ควรรู้. สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2561, จาก http://ebook.dreamnolimit.com/nhso/004/
[5] นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2542). การวิเคราะห์อภิมาน. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
[6] นรีรัตน์ เรืองกิจเงิน. (2547). พฤติกรรมสุขภาพส่วนบุคคลของสตรีวัยเจริญพันธุ์ชาวปกาเกอญอ. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. (การศึกษานอกระบบ). เชียงใหม่: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
[7] กุสุมา ศรียากูล. (2548). การดูแลสุขภาพหญิงหลังคลอดด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน: กรณีศึกษาชุมชนมอญ วัดหงษ์ปทุมาวาส จังหวัดปทุมธานี. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
[8] ศิโรบล ชึขุนทด. (2552). การประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านในการดูแลแม่และเด็ก จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. (วัฒนธรรมศาสตร์). มหาสารคาม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
[9] ณัฐพงศ์ พุดหล้า. (2554). หญิงหลังคลอด: การประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านในการดูแลสุขภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไทย ไทยลาว และไทยเขมรในภาคอีสาน. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. (วัฒนธรรมศาสตร์). มหาสารคาม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
[10] พฤกษชาติ ทบแป. (2554). ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูแลสุขภาพสตรีหลังคลอด กลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขมร.วิทยานิพนธ์ วท.ม. (สาธารณสุขศาสตร์). สุรินทร์: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.
[11] พิมทรัพย์ พิมพิสุทธิ์. (2554). พลวัตการใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านในการดูแลสุขภาพแม่ก๋ำเดือน (หญิงหลังคลอด). วิทยานิพนธ์ ศศ.บ. (วัฒนธรรมศึกษา). เชียงราย: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง.
[12] ละเอียด แจ่มจันทร์; และคณะ. (2557, พฤษภาคม-สิงหาคม). การแพทย์แผนไทยกับการบริบาลมารดาหลังคลอดในชุมชนภาคกลาง. วารสารพยาบาลทหารบก. 15(2): 195-202.
[13] อรวรรณ มะโนธรรม. (2556). พฤติกรรมสุขภาพภายหลังคลอดของสตรีลาวในเขตชนบทและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง. วิทยานิพนธ์ พย.ม. (การผดุงครรภ์ขั้นสูง). เชียงใหม่: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
[14] ชลธิชา รับงาม. (2557). การบูรณาการภูมิปัญญาพื้นบ้านอีสานในการดูแลสุขภาพมารดาหลังคลอดแบบองค์รวม. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. (วัฒนธรรมศาสตร์). มหาสารคาม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
[15] จินตนา หาญวัฒนกุล. (2547). การใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านเพื่อสร้างเสริมสุขภาพในระยะตั้งครรภ์ : กรณีศึกษาสตรีไทยมุสลิมในภาคใต้. วิทยานิพนธ์ พย.ม. (พยาบาล). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
[16] มุทิตา เสถียรวัฒน์ชัย. (2540). การศึกษาลักษณะสตรีและการมีระดูกับการเกิดเนื้องอกทางนรีเวชตามทฤษฎีแพทย์แผนไทย. วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. (วัฒนธรรมศึกษา). นครปฐม: บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล.
[17] อรทัย เนียมสุวรรณ; และ ศรายุทธ ตันเสถียร. (2558, มกราคม-มิถุนายน). พืชสมุนไพรที่ใช้ดูแลสุขภาพสตรีจากอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่. วารสารวิทยาศาสตร์บูรพา. 20(1): 118-132.
[18] World Intellectual Property Organization. (2012). Glossary of Key Terms Related to Intellectual Property and Genetic Resources, Traditional Knowledge and Traditional Cultural Expressions. Retrieved January 17, 2019, from https://www.wipo.int/edocs/mdocs/tk/en/wipo_grtkf_ic_22/wipo_grtkf_ic_22_inf_8.pdf
[19] แววดาว พรมเสน. (2554). การวิจัยเชิงคุณภาพและปริมาณ. วารสาร มทร.อีสาน. 4(1): 95-102.
[20] บุญเสริม หุตะแพทย์. (2553). หน่วยที่ 1 แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับชายหญิง. ใน ประมวลสาระชุดวิชาการศึกษาบทบาทชายหญิง หน่วยที่ 1-5. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
[21] กานต์ทิตา สีหมากสุก. (2559). ความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับข้อปฏิบัติสำหรับสตรีหลังคลอดลูกของกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ตำบลหนองปรง จังหวัดเพชรบุรี. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2561, จาก http://www.stou.ac.th/study/sumrit/12-59(500)/page1-12-59(500).html
[22] วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม. (ม.ป.พ). สืบสานภูมิปัญญาไทย สู่การดูแลตนเองหลังคลอด. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2561, จาก http://www.smnc.ac.th/group/research/images/stories/post.pdf
[23] เฟื่องลดา ทองประเสริฐ. (2554). การดูแลสตรีระยะหลังคลอด (Puerperium Care). สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2561, จาก http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=473:postpartum-care&catid=38&Itemid=480
[24] ฐานเศรษฐกิจ. (2559). ธุรกิจบริการคุณแม่ 'อยู่ไฟ' กำลัง 'บูม' ในตลาดจีน. สืบค้นเมื่อ 19 มกราคม 2562, จาก http://www.thansettakij.com/content/51915
[25] สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. (2559). ยุทธศาสตร์การแพทย์ดั้งเดิมขององค์การอนามัยโลก พ.ศ. 2557-2566. กรุงเทพฯ: อุษาการพิมพ์.
[26] สถาบันการแพทย์แผนไทย. (2556). มาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (รพ.สส.พท.). กรุงเทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Srinakharinwirot Research and Development Journal of Humanities and Social Sciences is licensed Under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivs 4.0 International (CC-BY-NC-ND 4.0) License, Unless Otherwise Stated. Please Read Journal Policies Page for More Information on Open Access, Copyright and Permissions.