การบูรณาการแนวคิดรัฐศาสตร์ พุทธปรัชญา และจริยธรรมในการบริหารการเมืองท้องถิ่น: กรณีศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. สำรวจประเด็นการวิจัยเกี่ยวกับขอบข่ายการบูรณาการแนวคิดรัฐศาสตร์ พุทธปรัชญา และจริยธรรมในการบริหารการเมืองท้องถิ่น 2. เพื่อทบทวนจุดยืนทางญาณวิทยาเกี่ยวกับแนวคิดรัฐศาสตร์ พุทธปรัชญา และจริยธรรมในการบริหารการเมืองท้องถิ่น 3. เพื่อสังเคราะห์แนวทางการบูรณาการแนวคิดรัฐศาสตร์ พุทธปรัชญา และจริยธรรมในการบริหารการเมืองท้องถิ่น ในจังหวัดนครศรีธรรมราช งานวิจัยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยสังเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารวิชาการ การวิจัยที่เกี่ยวข้อง และสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 5 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาและการสังเคราะห์อภิมาน
ผลการวิจัยสรุปได้ 3 ประการ ดังนี้ 1. การศึกษาการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช ชี้ให้เห็นถึงการบูรณาการแนวคิดรัฐศาสตร์ พุทธปรัชญา และจริยธรรมเพื่อสร้างความชอบธรรมในงานบริหารท้องถิ่น โดยการนำหลักธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมของประชาชนมาช่วยส่งเสริมความโปร่งใสและเสถียรภาพ 2. การบูณาการแนวคิดทางรัฐศาสตร์กับพุทธปรัชญาและจริยธรรมเป็นแนวทางที่สร้างความไว้วางใจในประชาชน ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น 3. การนำหลักศีลธรรมเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและบริหารงานท้องถิ่น ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้นำและประชาชน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษายังแนะนำให้ขยายความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจท้องถิ่นและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เพื่อพัฒนานโยบายที่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
โกวิทย์ พวงงาม. (2562). มองมุมใหม่การกระจายอำนาจ สู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิคอนราดอาเดนาวร์.
ชัยยนต์ ประดิษฐศิลป์ และจิตรา สมบัติรัตนานันท์. (2564). การสำรวจเชิงวิพากษ์เกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ในประเทศไทย. วารสาร
สังคมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 51(1), 51-72.
ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ. (2561). การพัฒนาการเมืองท้องถิ่นในประเทศไทย: มุมมองทางประวัติศาสตร์และสังคมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: สำนัก
พิมพ์มติชน.
พิสิษฐ์ จอมบุญเรือง. (2552). แนวโน้มของการปกครองท้องถิ่นในกระบวนทัศน์ใหม่.วารสารรัฐประศาสนศาสตร์, 6(1), 93-117.
วิษณุ เครืองาม. (2561). การบริหารราชการในยุคปฏิรูป (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์นิติธรรม.
สมบูรณ์ ชูชาติ. (2564). แนวทางการพัฒนาการศึกษาด้วยหลักธรรมาธิปไตยและศีลธรรมในสถาบันอุดมศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรชาติ บำรุงสุข. (2563). การเมืองในวิกฤติ: วิกฤตทางการเมืองและการปฏิรูปประเทศไทย (พิมพ์ครั้งที่1). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มติชน.
อานันท์ ปันยารชุน. (2563). การปกครองที่ยั่งยืน: แนวคิดและการปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย.
Ciulla, J. B. (2004). Ethics, the heart of leadership. Westport, CT: Praeger Publishers.
Easton, D. (1975). A re-assessment of the concept of political support. British Journal of Political Science, 5(4), 435-457.
Jain. V., R. Sharma. and S. Sing. (2012). Doing Meta-Analysis in Research: A Systematic Approach. Indian Journal of Dermatology,
Venereology, and Leprology. 78(3), 242-250.
Leske. S. (2011). CREATE 2011: Systematic Review, Metaanalysis and Qualitative Meta-Synthesis. The European Health Psychologist. 13(4),
-85.
Rothstein, B. (2011). The quality of government: Corruption, social trust, and inequality in international perspective. Chicago: University
of Chicago Press.
Schroeder, R. & Schneider, J. (2020). Ethical governance in local administration. Local Government Studies, 46(3), 405-420.
Scott, J. (1990). A Matter of Record, Documentary Sources in Social Research. Cambridge: Polity Press.
Verba, S., & Nie, N. H. (1972). Participation in America: Political democracy and social equality. Chicago: University of Chicago Press.