พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ดนตรีมุสลิมไทยภาคกลาง

ผู้แต่ง

  • กมลาลักษณ์ นวมสำลี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • มานพ วิสุทธิแพทย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • สุรศักดิ์ จำนงค์สาร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คำสำคัญ:

ดนตรีมุสลิมภาคกลาง, พัฒนาการทางดนตรีมุสลิม, ประวัติดนตรีมุสลิมภาคกลาง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ดนตรีมุสลิมในภาคกลางของประเทศไทย ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการอธิบายพัฒนาการของศิลปะการแสดงด้านดนตรีของชาวมุสลิมที่มีความหลากหลายและปรากฎอยู่ในภาคกลาง อีกทั้งศิลปะการแสดงดนตรีบางชนิดยังเป็นต้นทางของศิลปะการแสดงพื้นบ้านของไทย โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพและการลงพื้นที่ภาคสนาม ผลจากการศึกษาพบว่า ศิลปะการแสดงดนตรีของชาวมุสลิมไทยภาคกลางมีความเป็นมายาวนานสามารถแบ่งช่วงพัฒนาการทางดนตรีได้เป็น 3 ช่วงเวลา ดังนี้ 1) ช่วงก่อนปีพุทธศักราช 2510 นั้นเป็นการแสดงดนตรีแบบเรียบง่ายและมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์จำกัด ไม่สามารถลำดับพัฒนาการของการแสดงได้อย่างแน่ชัด รูปแบบการแสดงโดยส่วนใหญ่เป็นการนั่งล้อมวงตีกลองรำมะนาประกอบการขับร้องบทสรรเสริญนบีมูฮัมหมัด มีเนื้อหามาจากหนังสือบัรซันญีย์ พบการอ่านมูโหลด (ฟะนำอ์) และ    การแสดง ได้แก่ ดิเกร์เรียบ, นาเสป (มัจญรู๊ด), ดิเกร์ปันตน, ดิเกร์ลำ (ครึ่งท่อน) 2) ช่วงปีพุทธศักราช 2510 - 2533 เป็นช่วงเวลาที่รูปแบบของการแสดงดนตรีมุสลิมเปลี่ยนแปลงไปโดยมีการนำเครื่องดนตรีตะวันตกเข้ามาใช้กระทั่งนำมาสู่รูปแบบของวงที่เรียกว่า อาหรับ - มาเลย์ และนาเสปประยุกต์ ในปี พ.ศ. 2520 - 2526 เกิดกระแสการประชันนาเสป และในปี          พ.ศ. 2522 เกิดกระแสการต่อต้านดนตรีมุสลิมขึ้น 3) ช่วงปีพุทธศักราช 2533 ถึงปัจจุบัน ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ การขับร้องอนาชีดในรูปแบบการประสานเสียงเป็นที่นิยมมากขึ้นเกิดการรวมกลุ่มกันของนักดนตรีมุสลิมเพื่อสร้างความเข้มแข็งสู่การดำรงรักษาดนตรีมุสลิมไทยภาคกลางไว้

เอกสารอ้างอิง

จักรพงษ์ กลิ่นแก้ว. (2562). อุเละห์นบี: ดนตรีสรรเสริญศาสดามูฮัมหมัดของมุสลิมไทยภาคกลางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชามานุษยดุริยางควิทยา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

จักริน จันทนภุมมะ. (2554). ดนตรีนาเสป กรณีศึกษา ชุมชนมุสลิมหมู่ที่ 2 ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอบางนํ้าเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชามานุษยดุริยางควิทยา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

จุฑาศิริ ยอดวิเศษ. (2553). การอนุรักษ์และการพัฒนาดนตรีในศิลปะการแสดงพื้นบ้านไทยมุสลิม. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

นูรียัน สาแล๊ะ. (2540). ทีทรรศน์วัฒนธรรม ใน มะโย่ง: ความพยายามที่ลางเลือนในการสืบสานวัฒนธรรมให้คงอยู่. กรุงเทพมหานคร: บริษัท อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด.

ปริญญา ปานนพภา. (2559). ดนตรีวิถีมุสลิมไทย กรณีศึกษาวงดนตรีนาเซบร่วมสมัยคณะเบบี้อาราเบีย ชุมชนสะและน้อย อ่อนนุช 54 กรุงเทพมหานคร. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชามานุษยดุริยางควิทยา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

วีณา เอี่ยมประไพ. (2535). หลักฐานทางประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์.

อบู มันศูร. (2526). จริยธรรมอิสลาม. กรุงเทพมหานคร: อมรินทร์การพิมพ์.

เอนก นาวิกมูล. (2527). เพลงนอกศตวรรษ. กรุงเทพมหานคร: ธรรมสาร จำกัด.

ฮาซัน กบิลคาม. (2560). อิสลามจากคาบสมุทรอาระเบียสู่แผ่นดินชาวสยาม. กรุงเทพมหานคร: นัทชาปริ้นส์ติ้ง จำกัด.

Robertson, R. (1992). Globalization: Social Theory and Global Culture. LDN: Sage Publications.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

04/30/2022

รูปแบบการอ้างอิง

นวมสำลี ก. ., วิสุทธิแพทย์ ม. ., & จำนงค์สาร ส. . (2022). พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ดนตรีมุสลิมไทยภาคกลาง. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(4), 361–377. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/258108

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย