การพัฒนากรอบสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับครูที่มีวุฒิไม่ตรงสาขา ระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
คำสำคัญ:
สมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ, แบบประเมิน, ครูที่มีวุฒิไม่ตรงสาขา, ระดับประถมศึกษาบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับครูที่มีวุฒิไม่ตรงสาขา ระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 2) เพื่อพัฒนากรอบสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับครูที่มีวุฒิไม่ตรงสาขา ระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 3) เพื่อพัฒนาแบบประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับครูที่มีวุฒิไม่ตรงสาขา ระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา โดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบ One - Shot Repeated Measures Design ด้วยการวิเคราะห์เอกสาร (Documentary Analysis) และสัมภาษณ์ครูที่ได้รับรางวัลครูผู้สอนดีเด่นจากกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550-2563 จำนวน 9 คน การสังเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารและสัมภาษณ์นำมาวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ได้พัฒนาขึ้นจากสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ตรวจสอบคุณภาพของแบบประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับครูที่มีวุฒิไม่ตรงสาขา ระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พิจารณาความสอดคล้องโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน และนำไปทดลองใช้เพื่อหาความเชื่อมั่น (Reliability) ผลการวิจัยพบว่า สมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับครูที่มีวุฒิไม่ตรงสาขา ระดับประถมศึกษา ประกอบด้วย 3 สมรรถนะย่อย 1) สมรรถนะด้านการออกแบบการเรียนรู้ 2) สมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ 3) สมรรถนะด้านการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน แบบประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับครูที่มีวุฒิไม่ตรงสาขา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา ผลการตรวจสอบคุณภาพแบบประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า มีค่าดัชนี IOC อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 แสดงให้เห็นว่าแบบประเมินสามารถนำไปใช้ในการประเมินสมรรถนะได้
เอกสารอ้างอิง
จรัญ น่วมมะโน. (2562). การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ใน ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการนิเทศการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ชนิตา รักษ์พลเมืองและคณะ. (2560). การศึกษาสภาพและปัญหาการผลิต การใช้ และการพัฒนาครูการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่สอดคล้องกับความต้องการในอนาคต. วารสารครุศาสตร์, 43(3), 17-33.
ชัชรีย์ บุนนาค. (2562). ปัญหาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทย และข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์ การพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ปี 2564 - 2568. ใน การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 2 “Graduate School Conference 2018”. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
ดลวรรณ พวงวิภาต. (2562). องค์ประกอบสมรรถนะครูภาษาอังกฤษของโรงเรียนประถมศึกษา. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10) กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
ประมาณ อุ่นพิมาย. (2561). ปัญหาในการสอนภาษาอังกฤษและความต้องการในการพัฒนาวิชาชีพของครูชาวไทยผู้สอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศในระดับชั้นประถมศึกษา. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิณ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ. มหาวิทยาลัยราขภัฎบุรีรัมย์.
ประหยัด พิมพา. (2561). การศึกษาไทยในปัจจุบัน (Current Thai Studies). วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 7(1), 242-249.
สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2562). เรียกใช้เมื่อ 1 กันยายน 2565 จาก รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O - NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6: http//www. niets.or.th
สมนึก ภัททิยธนรี. (2558). การวัดผลการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 10) กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์.
สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการประเมินสมรรถนะครู. กรุงเทพมหานคร: บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
Harmer, J. (2001). The Practice of English Language Teaching. (3rd ed). China: Longma.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




