ความรู้ ทัศนคติ และผลการบันทึกรายงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลของนักศึกษาพยาบาลในวิชาปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น 2 : กรณีศึกษา นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

บทคัดย่อ

    วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ เจตคติ ผลการบันทึกรายงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผล และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ เจตคติ และผลการบันทึกรายงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น 2 จำนวน 77 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ แบบทดสอบความรู้การใช้ยาอย่างสมเหตุผล แบบสอบถามเจตคติการใช้ยาอย่างสมเหตุผล และแบบประเมินผลการบันทึกรายงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในรายงานกรณีศึกษาเฉพาะราย โดยหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบสอบถามความรู้ ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องภายใน (IOC) อยู่ในช่วง 0.72-1.00 และได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความรู้ แบบสอบถามเจตคติ และแบบประเมินการบันทึกการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เท่ากับ 0.78, 0.74 และ 0.76 ตามลำดับ เก็บข้อมูลโดยการทำแบบทดสอบความรู้ แบบสอบถามเจตคติ และตรวจการบันทึกรายงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในรายงานกรณีศึกษา ภายหลังสิ้นสุดการฝึกปฏิบัติวิชาปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และหาค่าความสัมพันธ์โดยคำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า ระดับความรู้การใช้ยาอย่างสมเหตุผลอยู่ในระดับดีมาก (=18.64, S.D.=1.11) ระดับเจตคติการใช้ยาอย่างสมเหตุผลอยู่ในระดับดี (=4.43, S.D.=0.58) ระดับผลการบันทึกรายงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในรายงานกรณีศึกษาเฉพาะราย โดยภาพรวมอยู่ในระดับดี (=4.47, S.D.=0.63) การหาค่าความสัมพันธ์ พบว่า ความรู้กับผลการบันทึกรายงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r=0.34) ความรู้กับเจตคติการใช้ยาอย่างสมเหตุผลมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r=0.21) และเจตคติกับผลการบันทึกรายงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลมีความสัมพันธ์กันในเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r=-0.13)