การศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายศูนย์การเรียนรู้ของวิสาหกิจชุมชนเพาะเห็ดอินทรีย์ บ้านลิพอนหัวหาร-บ่อแร่ จังหวัดภูเก็ต

บทคัดย่อ

    การตัดสินใจขยายศูนย์การเรียนรู้ เพื่อให้มีกำลังการผลิตเพียงพอต่อความต้องการของตลาด ย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้น งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ 5 ด้าน และเสนอแนวทางดำเนินการขยายศูนย์การเรียนรู้ กำหนดกลุ่มตัวอย่างเป็นลูกค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทั้งหมด 40 ราย โดยใช้แบบสอบถามที่มีค่าความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.67-1.00 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสอบถามเป็นรายบุคคล นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ความต้องการทางการตลาดด้วยการหาค่าร้อยละและค่าเฉลี่ย วิเคราะห์ความคุ้มค่าทางด้านการเงิน ใช้แผนภูมิกระบวนการไหลวิเคราะห์กระบวนการผลิต วิเคราะห์โครงสร้างและแผนงานองค์กร และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ด้านสิ่งแวดล้อม ผลการศึกษา 1) ด้านการตลาด พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อมากที่สุดคือ การบริการส่งที่รวดเร็ว 2) ด้านเทคนิคและวิศวกรรม พบว่า กำลังการผลิตก้อนเชื้อเห็ดของโครงการปีละ 612,000 ก้อน ใช้เครื่องจักรในการผลิต 2 เครื่อง และเตานึ่งก้อนเชื้อเห็ด 2 เตา แรงงาน 3 คน และพื้นที่ทั้งหมด 288 ตารางเมตร 3) ด้านการเงิน พบว่า มูลค่าสุทธิปัจจุบัน 29,403,567.39 บาท อัตราผลตอบแทนการลงทุนเท่ากับ ร้อยละ 85.66 ระยะเวลาคืนทุนเท่ากับ 1 ปี 5 เดือน และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน มีค่าเท่ากับ 2.09 ซึ่งมีค่ามากกว่า 1 แสดงว่าโครงการนี้ ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับที่ลงทุน 4) ด้านการบริหาร พบว่า มีรูปแบบโครงสร้างองค์กรตามหน้าที่และมีประธานกลุ่มเป็นผู้ขับเคลื่อนองค์กร และ 5) ด้านสิ่งแวดล้อม พบว่า กิจกรรมการผลิตไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนำเสนอแนวทางการจัดตั้งศูนย์ 3 ขั้นตอน คือ เตรียมการ ดำเนินการ และติดตามและประเมินผล ซึ่งจะนำไปสู่ความเป็นไปได้ในการขยายศูนย์การเรียนรู้การเพาะเห็ดอินทรีย์ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในโครงการทุกด้าน