แนวทางการพัฒนาความสุขทางการเรียนตามหลักไตรสิกขาสำหรับนิสิตนักศึกษา ของสถาบันอุดมศึกษาไทย

Main Article Content

รณชัย บริสุทธิ์
จักรกฤษณ์ โปณะทอง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่คาดหวังในการพัฒนาความสุขทางการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาสำหรับนิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาไทย และ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาความสุขทางการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาสำหรับนิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาไทย ผู้ให้ข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย รวมทั้งหมด 420 คน ประกอบด้วย 1) ผู้บริหารและคณาจารย์ จำนวน 10 คน  2) นิสิตนักศึกษา จำนวน 400 คน และ 3) ผู้บริหารและคณาจารย์ จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบกึ่งมีโครงสร้างเพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่คาดหวัง 2) แบบสอบถามในการประเมินสภาพปัจจุบันและสภาพที่คาดหวังของการพัฒนาความสุขทางการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาสำหรับนิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาไทย โดยใช้แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับของลิเคริ์ท โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .933 และ 3) แบบสอบถามแนวทางการพัฒนาความสุขทางการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาสำหรับนิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาไทย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
และค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (PNI modified ) ผลการวิจัย พบว่า 1) นิสิตนักศึกษามีความต้องการจำเป็นของการพัฒนาความสุขทางการเรียนรู้ โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อแยกเป็นรายด้าน พบว่า ในด้านร่างกาย (กายภาวนา) มีความต้องการมากที่สุด (ค่า PNI = 0.11) รองลงมาคือ ด้านจิตใจ
(จิตตภาวนา) และ ด้านสมาธิ (จิตตสิกขา) มีค่า PNI เท่ากัน (ค่า PNI = 0.09) ด้านอารมณ์ (ปัญญาภาวนา)
และด้านปัญญา (ปัญญาสิกขา) มีค่า PNI เท่ากัน (ค่า PNI = 0.08) ส่วนความต้องการจำเป็นของการพัฒนาความสุขทางการเรียนรู้ที่มีค่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ย  มี 2 ด้าน คือ ด้านสังคม (สีลภาวนา) และด้านศีล (สีลสิกขา) มีค่า PNI เท่ากัน (ค่า PNI = 0.07) 2) ผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาความสุขทางการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาสำหรับนิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาไทย ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา คณาจารย์ผู้สอน และนิสิตนักศึกษาเห็นด้วยกับการนำหลักไตรสิกขาไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาความสุขทางการเรียนรู้ในสถาบันอุดมศึกษาไทย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
บริสุทธิ์ ร. ., & โปณะทอง จ. . (2025). แนวทางการพัฒนาความสุขทางการเรียนตามหลักไตรสิกขาสำหรับนิสิตนักศึกษา ของสถาบันอุดมศึกษาไทย. วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 8(1), 13–35. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/279609
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

กัญยุพา สรรพศรี. (2561). การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ตามหลักไตรสิกขาของนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 (ดุษฎีนิพนธ์คณะครุศาสตร์บัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

กิ่งกาญจน์ บูรณสินวัฒนกูล. (2562). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการคิดสร้างสรรค์ของ Plsek ร่วมกับทฤษฎีเชาวน์ปัญญาสามองค์ประกอบของ Sternberg เพื่อเสริมสร้างความสามารถ ในการเขียนเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ของนักศึกษาระดับปริญญา (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต). (2547). ไตรสิกขา: แนวทางแห่งการพัฒนามนุษย์. กรุงเทพฯ: มูลนิธิพุทธธรรม.

สมบัติ ธำรงธัญวงศ์. (2559). การศึกษาเพื่อพัฒนาความสุขและคุณภาพชีวิตของนักศึกษาในศตวรรษที่ 21.กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). รายงานการศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในสถาบันอุดมศึกษา. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.

Fredrickson, B. L. (2001). The role of positive emotions in positive psychology: The broaden and build theory of positive emotions. American Psychologist, 56(3), 218–226.

Seligman, M. E. P. (2011). Flourish: A visionary new understanding of happiness and well-being. New York: Free Press.