Senior Japanese Long-stayers’Perception of Chiang Mai
Main Article Content
Abstract
This research studied the perception of senior Japanese “long-stayers” of Chiang Mai. The purpose of the study was to offer suggestions for the strategic planning of Chiang Mai Province. The population of this research was 38 Japanese individuals aged 60 years old and above that had been living in Chiang Mai for over one year. Four focus group sessions were arranged in order to gather the necessary data. A structured question list based on Rogers M. Everett’s diffusion of innovations theory was applied as the main tool for the data collection. The study showed that the senior Japanese long-stayers had a good image of Chiang Mai in terms of safety, healthcare services, and language and communications at a high level; government services at a moderate level; and roles and values of the society at a low level. The researchers suggest that Chiang Mai Province encourage the senior Japanese living in Chiang Mai to be more active in local activities so that they can spread information about life in Chiang Mai among their peers.
Article Details
ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ ในบทความเป็นของผู้เขียนบทความนั้นๆ ไม่ใช่ความเห็นของกองบรรณาธิการหรือของวารสาร jsn Journal
References
กรวรรณ สังขกร. (2561). เปิดผลวิจัยดัน “ภาคเหนือ” สู่เมืองพำนักระยะยาว เชียงใหม่ฮอตแห่งลองสเตย์กว่า 4 หมื่นราย. ประชาชาติธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561. เข้าถึงได้จาก https://www.prachachat.net/local-economy/news- 225999
ฐิติพร ศรีอาภรณ์. (2560). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวในจังหวัดเชียงใหม่ของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น. วารสารบัณฑิตวิจัย, 6 (1), 177-184.
แผนแม่บทพัฒนาธุรกิจ ลองสเตย์ ปี พ.ศ. 2560 - 2564 ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (2559). สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่.
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. (2551). รูปแบบที่พักแบบพำนักระยะยาวที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย. รายงานลการวิจัยเสนอต่อสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561. เข้าถึงได้จาก http://www.oknation.net/blog/TourismNU/2007/09/08/entry-3
วลัยพร กาญจนการุณ และ ธีรัช ปัญโญ. (2554). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจขยายเวลาพำนักอยู่ของผู้พำนักระยะยาวของชาวญี่ปุ่นในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารมนุษยศาสตร์สาร. 15 (1), 179-201.
วารัชต์ มัธยมบุรุษ (2550). เหลียวหลังแลหน้าการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องในโอกาส ความสัมพันธ์ 120 ปี ประเทศไทย - ประเทศญี่ปุ่น. วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. 177-184.
ศูนย์ประสานการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2552). มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย: มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว มทท 206-2552. 3.
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย. (2560). จำนวนชาวญี่ปุ่นที่พำนักอาศัยตามจังหวัด (Top 15 เมืองและเขตปกครอง). สถิติการสำรวจจำนวนผู้อยู่อาศัยในต่างประเทศ. สืบค้นเมื่อ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561. เข้าถึงได้จาก https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_ja/consular_zairyu17.html
เอกคณิต เอี่ยมภัคดี. (2555). ทฤษฎีการแพร่กระจายนวัตกรรม Diffusion of Innovation Theory. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561. เข้าถึงได้จาก https://www.gotoknow.org/posts/516302
Rogers, E. M. (1995). Diffusion of innovations. New York: Free Press of Glencoe.