จริยธรรมการตีพิมพ์บทความ
จริยธรรมการตีพิมพ์บทความในวารสารมังรายสาร
เพื่อให้การดำเนินการของวารสารมังรายสารเป็นไปตามมาตรฐานวิชาการระดับชาติและนานาชาติ กองบรรณาธิการจึงกำหนดจริยธรรมสำหรับบรรณาธิการ ผู้นิพนธ์ และผู้ประเมินบทความ ดังนี้
บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการวารสาร (Duties of Editors)
1. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณาและตรวจสอบบทความที่ส่งมาเพื่อเผยแพร่ในวารสารทุกบทความ โดยพิจารณาเนื้อหาบทความที่สอดคล้องกับเป้าหมายและขอบเขตของวารสาร โดยปราศจากอคติในเรื่องเพศ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม การเมือง และสังกัดของผู้นิพนธ์
2. บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบทความที่ส่งมาพิจารณาตีพิมพ์แก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาของการประเมินบทความ
3. บรรณาธิการต้องตัดสินใจเกี่ยวกับบทความแต่ละบทความด้วยความเที่ยงธรรม โดยพิจารณาจาก
3.1 ความสำคัญ
3.2 ความใหม่
3.3 ความชัดเจน
3.4 ความสมเหตุสมผลของการศึกษา
3.5 ความสัมพันธ์กับขอบเขตของวารสาร
4. บรรณาธิการต้องดำเนินการทุกขั้นตอนของกระบวนการประเมินบทความอย่างมีคุณภาพภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
5. บรรณาธิการต้องเลือกผู้ประเมินบทความที่มีความเชี่ยวชาญและเหมาะสมกับสาขาของบทความนั้นๆ
6. บรรณาธิการต้องรักษามาตรฐานของวารสาร รวมทั้งพัฒนาวารสารให้มีคุณภาพและมีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง
บทบาทและหน้าที่ของผู้นิพนธ์ (Duties of Authors)
1. ผู้นิพนธ์ต้องรับรองว่าผลงานที่ส่งมาเป็นผลงานใหม่และไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน
2. ผู้นิพนธ์ต้องไม่ส่งบทความเดียวกันไปยังวารสารมากกว่าหนึ่งแห่งในเวลาเดียวกัน
3. ผู้นิพนธ์ต้องระบุแหล่งที่มาของข้อมูลที่นำมาใช้อ้างอิงในบทความอย่างครบถ้วนและถูกต้องตามหลักวิชาการ
4. ผู้นิพนธ์ต้องเขียนบทความให้ถูกต้องตามรูปแบบที่วารสารกำหนด
5. ผู้นิพนธ์ที่มีชื่อปรากฏในบทความทุกคนต้องเป็นผู้ที่มีส่วนในการดำเนินการวิจัยจริง
6. ผู้นิพนธ์ต้องระบุแหล่งทุนที่สนับสนุนการวิจัยและระบุผลประโยชน์ทับซ้อน (ถ้ามี)
7. ผู้นิพนธ์ต้องแก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะของผู้ประเมินบทความและบรรณาธิการ
บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ (Duties of Reviewers)
1. ผู้ประเมินบทความต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลบางส่วนหรือทุกส่วนของบทความที่ส่งมาเพื่อพิจารณา
2. ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งบรรณาธิการหากพบว่าบทความมีเนื้อหาที่คล้ายคลึงหรือเหมือนกับบทความอื่นๆ
3. ผู้ประเมินบทความต้องปฏิเสธการประเมินบทความหากมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์
4. ผู้ประเมินบทความต้องประเมินบทความในสาขาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ โดยพิจารณาให้ข้อเสนอแนะด้วยความเที่ยงธรรม
5. ผู้ประเมินบทความต้องระบุผลงานวิจัยที่สำคัญและสอดคล้องกับบทความที่กำลังประเมินแต่ผู้นิพนธ์ไม่ได้อ้างถึง
6. ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งบรรณาธิการทันทีหากพบว่าตนเองไม่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอที่จะประเมินบทความ
7. ผู้ประเมินบทความต้องส่งผลการประเมินตามกำหนดเวลา หากมีเหตุขัดข้องต้องแจ้งบรรณาธิการทันที
การคัดลอกผลงาน (Plagiarism)
1. บทความทุกบทความที่ส่งมาตีพิมพ์จะต้องได้รับการตรวจสอบการคัดลอกผลงาน (Plagiarism) โดยใช้โปรแกรมที่น่าเชื่อถือ
2. หากตรวจพบการคัดลอกผลงานในระหว่างการประเมินบทความ บรรณาธิการจะยุติการพิจารณาบทความทันที
3. หากตรวจพบการคัดลอกผลงานภายหลังจากการตีพิมพ์บทความแล้ว บทความนั้นจะถูกถอดถอนออกจากวารสาร (Retraction)
การเผยแพร่
1. วารสารจะเผยแพร่บทความที่ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่านและได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์แล้วเท่านั้น
2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากกองบรรณาธิการและได้รับการแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้ประเมินบทความแล้ว
การเก็บรักษาข้อมูล
1. กองบรรณาธิการจะเก็บรักษาข้อมูลของผู้นิพนธ์และผู้ประเมินบทความไว้เป็นความลับ
2. กองบรรณาธิการจะเก็บรักษาผลการประเมินบทความไว้อย่างน้อย 3 ปี