การพัฒนารูปแบบการปรึกษากลุ่มตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริงที่มีต่อการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาพัฒนารูปแบบการปรึกษากลุ่มตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริงที่มีต่อการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู 2) เพื่อหาคุณภาพรูปแบบการปรึกษากลุ่มตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริงที่มีต่อการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในงานวิจัย คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการปรึกษาจำนวน 5 ท่าน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อรูปแบบการปรึกษากลุ่มตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริงที่มีต่อการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู และแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อแบบวัดการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธี คะแนนเฉลี่ยความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และการวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์กับข้อคำถาม (IOC)
ผลการวิจัย พบว่า
1 รูปแบบการปรึกษากลุ่มตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริงที่มีต่อการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู ประกอบด้วย
1.1 โปรแกรมการปรึกษากลุ่มตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริงที่มีต่อการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู
1.2 แบบวัดการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู
1.3 แบบบันทึกประสบการณ์การเข้าร่วมกลุ่มการปรึกษาตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริง
1.4 แบบสอบถามความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อโปรแกรมการปรึกษากลุ่ม
ตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริงที่มีต่อการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครูและผู้นำกลุ่ม โดยที่โปรแกรมการปรึกษากลุ่มตามแนวเผชิญความจริงฯมีจำนวนกิจกรรม 8 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 การปฐมนิเทศและการสร้างสัมพันธภาพ ครั้งที่ 2 บทบาทหน้าที่สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาชีพครู ครั้งที่ 3 สำรวจความต้องการในการพัฒนา บทบาทหน้าที่ (W=Want) ครั้งที่ 4 การสำรวจพฤติกรรมเกี่ยวบทบาทหน้าที่ในด้านต่างๆที่กำลังกระทำอยู่ในปัจจุบัน (D=Direction and Doing) ครั้งที่ 5 การประเมินพฤติกรรมตนเองเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ในด้านต่างๆ (E=Evaluation) ครั้งที่ 6 การวางแผนปฏิบัติและการสร้างข้อผูกพัน (P=Planning and Commitment) ครั้งที่ 7 การติดตามผล และครั้งที่ 8 ปิดกลุ่ม 2) การหาคุณภาพของรูปแบบการปรึกษากลุ่มตามแนวทฤษฎีเผชิญความจริงที่มีต่อการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครูโดยผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการปรึกษาจำนวน 5 ท่าน เห็นว่ามีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด คะแนนเฉลี่ย 4.8 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.4 การวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์กับข้อคำถาม (IOC) ของแบบวัดการตระหนักรู้บทบาทหน้าที่ของนักศึกษาสาขาวิชาชีพครูมีค่าดัชนีความสอดคล้องทั้งฉบับเท่ากับ 0.86
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Choomjit, Y. (2010). Self-Actualization for Teachers. Bangkok: Odeon Store. (In Thai)
Luenglue, J. (2016). Development of Reality Group Counseling Intervention Model for Enhancing Life Competency in Contemporary Society of First Year Students of the Faculty of Education in Public Universities in Bangkok. Kasem Bundit Journal,17(2), 153-166. (In Thai)
Pakutai, C. (2014). Effects of Reality Group Counseling on Self-Directed Learning of Grade Twelve Students. Research Methodology & Cognitive Science, 12(2), 81-91. (In Thai)
Panichattra, A. (2019). The Effects of Reality Group Counseling on Alcohol Abstinence of 2nd year Undergraduate Students, Faculty of Public, Health Burapha University. The Public Health Journal of Burapha University, 14(1), 131-141. (In Thai)
Pongsopha, P. (2014). Theory and techniques of counseling. Bangkok: Thanatach Printing. (In Thai)
Sanu, S. (2011). The Development of Self-Control Behavior for Weight Reduction in the Undergraduate Students by Reality Group Counseling. (Master’s thesis). Burapha University.
Supmee, W. (2007). The counseling process stages, rapport, skills. Bangkok: The Publisher of Chulalongkorn University. (In Thai)
Supmee, W. (2013). Theory of counseling. Bangkok: The Publisher of Chulalongkorn University. (In Thai)