การใช้แอปพลิเคชันฝึกความจำในการฟื้นฟูความจำของผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมโดยใช้กิจกรรมตามหลักปรัชญามอนเตสซอรี่

ผู้แต่ง

  • พิชชาพร โอภาศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • ณัฏฐ์ฤทัย อรุณศิโรจน์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • จารุณี ภัทรวงษ์ธนา คณะนวัตกรรม เทคโนโลยี และการสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น
  • นินุช บุณยฤทธานนท์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น

คำสำคัญ:

ภาวะสมองเสื่อม, ผู้สูงอายุ, เทคโนโลยี, หลักปรัชญามอนเตสซอรี่, แอปพลิเคชัน

บทคัดย่อ

งานวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างแอปพลิเคชันฝึกความจำเพื่อฟื้นฟูความจำของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมโดยใช้กิจกรรมตามหลักปรัชญามอนเตสซอรี่ 2) ประเมินคะแนนความจำก่อนและหลังการทดลองใช้แอปพลิเคชันฝึกความจำเพื่อฟื้นฟูความจำของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมโดยใช้กิจกรรมตามหลักปรัชญามอนเตสซอรี่ และ 3) ประเมินความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมต่อการใช้แอปพลิเคชันฝึกความจำเพื่อฟื้นฟูความจำของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมโดยใช้กิจกรรมตามหลักปรัชญามอนเตสซอรี่ กลุ่มตัวอย่าง คือ กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 100 คน โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งมีการศึกษาตั้งแต่ประถมศึกษาเป็นต้นไป สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และได้รับการคัดกรองแบบตรวจสภาพสมองของคนไทย (TMSE) และมีผลคะแนนน้อยกว่า 23 คะแนน เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แอปพลิเคชันฝึกความจำเพื่อฟื้นฟูความจำของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมโดยใช้กิจกรรมตามหลักปรัชญามอนเตสซอรี่ และเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบตรวจสภาพสมองของคนไทย (TMSE) และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานแอปพลิเคชันฝึกความจำเพื่อฟื้นฟูความจำของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมโดยใช้กิจกรรมตามหลักปรัชญามอนเตสซอรี่ ค่าสถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ​ผู้วิจัยได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “Brain Booster” บนอุปกรณ์พกพาในระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์ ผลการวิจัยพบว่า คะแนนความจำของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมหลังการทดลองโดยใช้แอปพลิเคชันฝึกความจำเพื่อฟื้นฟูความจำของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมโดยใช้กิจกรรมตามหลักปรัชญามอนเตสซอรี่สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดับ .01 และผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีต่อแอปพลิเคชันพบว่าผู้สูงอายุมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมาก คิดเป็นค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.53 นอกจากนี้จากการสังเกตพบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ได้รับความสนุกสนานในการเล่นเกมฝึกสมองจากแอปพลิเคชัน และเนื่องจากแอปพลิเคชันถูกออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งานและไม่ซับซ้อนจึงไม่ทำให้เกิดปัญหาการใช้งานแอปพลิเคชันของผู้สูงอายุ

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

National Statistical Office of Thailand. (2022). The number of populations categorized by age, sex, and region. http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/en/01.aspx

Deschenes, C. L., and McCurry, S. M. (2009). Current treatments for sleep disturbances in individuals with dementia. Current Psychiatry Reports, 11(1), 20-26.

Meinke, H. (2019). Exploring the pros and cons of montessori education. https://www.rasmussen.edu/degrees/education/blog/pros_cons_montessori_education/

Nanthachai, K. (2008). The efficacy of memory training using montessori philosophy - based activities mild dementia elderly. Chulalongkorn University: Bangkok. https://doi.org/10.14457/CU.the.2008.334

Poonphat, J., and Kraisornpong, K. (2001). Montessori teaching manual: From theory to practice. Bangkok: Institute of Academic Development (IAD).

Kannasoot, K. (2008). Efficacy of activities of daily living skill training using montessori-based activities in elderly with early stage dementia [Unpublished master’s thesis]. Chulalongkorn University, Bangkok.

Train the Brain Forum Committee. (1993). Thai mental state examination (TMSE). Siriraj Hospital Gazette, 45(6), 359-374.

Kamsuwan, S., and Thongngao, K. (2022). A study of the effectiveness of the online infographic poster media of the social security office. UMT Poly Journal, 16(1), 131-135. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/umt-poly/article/view/190165

Trithossadech, D. (2018). 2D infographic instruction media: Evolution of hip-hop culture [Unpublished master’s thesis]. Rangsit University.

Kanagawa, K., Amatsu, E., Sato, H., Hosokawa, J., Ito, M., and Matsudaira, Y. (2006). Community-based nursing care practice for the prevention of dementia in elderly residents in Japan. Primary Health Care Research and Development, 7(4), 314-317. https://doi.org/10.1017/S1463423606000429

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-10-31

รูปแบบการอ้างอิง

โอภาศ พ., อรุณศิโรจน์ ณ., ภัทรวงษ์ธนา จ., & บุณยฤทธานนท์ น. (2024). การใช้แอปพลิเคชันฝึกความจำในการฟื้นฟูความจำของผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมโดยใช้กิจกรรมตามหลักปรัชญามอนเตสซอรี่. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 16(32, July-December), 1–12, Article 275934. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/swurd/article/view/275934