รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Main Article Content

จิราภรณ์ ผันสว่าง

บทคัดย่อ

บทความการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การ, เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์และเพื่อศึกษาอิทธิพลทางตรง อิทธิพลทางอ้อม และอิทธิพลรวมที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ได้แก่ เจ้าหน้าที่ อาจารย์ จำนวน 560 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเที่ยงทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา ระหว่าง 0.85–1.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ผลการวิจัย พบว่าการพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี ตัวแปร 28 ตัวแปร แบ่งเป็น ตัวแปรแฝง 7 ตัวแปรและ ตัวแปรสังเกตได้ 21 ตัวแปร มีดังนี้ (1) ความผูกพันต่อองค์การของบุคลากร มีตัวแปรสังเกตได้ 3 ตัวแปร (2) วัฒนธรรมองค์การ มีตัวแปรสังเกตได้ 2 ตัวแปร (3) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีตัวแปรสังเกตได้ 4 ตัวแปร (4) การมีส่วนร่วมในการบริหาร มีตัวแปรสังเกตได้ 3 ตัวแปร (5) การเห็นคุณค่าในตนเอง มีตัวแปรสังเกตได้ 2 ตัวแปร (6) ความพึงพอใจในงาน มีตัวแปรสังเกตได้ 4 ตัวแปร และ (7) บรรยากาศองค์การ มีตัวแปรสังเกตได้ 3 ตัวแปร และรูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ซึ่งจากผลการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฏว่า มีค่าความน่าจะเป็น (P-value) เท่ากับ .078 ค่าสถิติไค-สแควร์ ( ) เท่ากับ 122.887 องศาอิสระ(df) เท่ากับ 102 ค่าสถิติไค – สแควร์หารด้วยองศาอิสระ ( ) เท่ากับ1.205 ดัชนีรากกำลังสองเฉลี่ยของค่าความแตกต่างโดยประมาณ (RMSEA) เท่ากับ 0.019 ดัชนีวัดระดับความสอดคล้องกลมกลืน (GFI) เท่ากับ 0.980 และดัชนีวัดระดับความสอดคล้องกลมกลืนที่ปรับแก้แล้ว (AGFI) เท่ากับ 0.954 ดัชนีวัดเปอร์เซ็นต์ความสอดคล้อง(NFI) เท่ากับ .985 และดัชนีวัดความกลมกลืนเปรียบเทียบ(CFI) เท่ากับ .997 ส่วนปัจจัยที่มีอิทธิพลทางตรงต่อความผูกพันต่อองค์การมากที่สุดคือ การเห็นคุณค่าในตนเอง รองลงมาคือ การมีส่วนร่วมในการบริหาร และน้อยที่สุดคือ บรรยากาศองค์การ ปัจจัยที่มีอิทธิพลทางอ้อมมากที่สุดคือ ความพึงพอใจในงาน รองลงมาคือ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง และน้อยที่สุดคือ วัฒนธรรมองค์การ ปัจจัยที่มีอิทธิพลรวมมากที่สุดคือ การเห็นคุณค่าในตนเอง รองลงมาคือ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง และน้อยที่สุดคือ ความพึงพอใจในงาน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ผันสว่าง จ. (2014). รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 5(2), 47–58. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/173590
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เกรียงศักดิ์ ศรีสมบัติ. (2551). รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อโรงเรียนและความผูกพันต่อวิชาชีพของครูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ดุษฎีนิพนธ์ ศึกษาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทวิพันธ์ พัวสรรเสริญ. (2552). ความผูกพันต่อองค์การของอาจารย์มหาวิทยาลัยภาครัฐในเขต กรุงเทพมหานคร. ดุษฎีนิพนธ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

รัตนา บุตรดี. (2553). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของบุคลากรสาย สนับสนุนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ. วิทยานิพนธ์ การวิจัยการศึกษามหาบัณฑิต

Fjortoft, I. And J. Sageie (1993). The Natural Environment as a Playground for Children: Landscape Description and Analysis of a Natural Landscape. Landscape and Urban Planning 48(1/2) 83-97