ตำรวจในอุดมคติตามแนวพุทธศาสน์

Main Article Content

วนิชย์ วัลลา

บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาความเป็นมาและหน้าที่ของตำรวจ 2) เพื่อศึกษาตำรวจในอุดมคติของสังคมไทย 3) เพื่อศึกษาตำรวจในอุดมคติตามแนวพระพุทธศาสน์ และ4) เพื่อศึกษาแนวทางการสร้างองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับ “รูปแบบตำรวจในอุดมคติตามแนวพุทธศาสน์” การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพศึกษาจากคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา คือ พระไตรปิฎก หนังสือ เอกสารทางวิชาการ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และมีการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งที่เป็นตำรวจและที่เป็นนักวิชาการจำนวน 9 รูป/คน โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 5 คน และนักวิชาการทางพระพุทธศาสนาอีก 4 รูป/คน จากนั้นสรุปสังเคราะห์เป็นองค์ความรู้ในงานวิจัย ผลการวิจัยพบว่า ตำรวจ คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ เดิมนั้นตำรวจ เรียกว่า เสวก หรือราชภัฏ เป็นบุคคลที่ช่วยเหลือพระราชาในการทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงแห่งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตำรวจมีความเป็นมาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย เป็นต้นมาแต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่นอนในเชิงตำแหน่ง แต่มาปรากฏตำแหน่งตำรวจชัดเจนในสมัยอยุธยา จากนั้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ก็มีการสร้างสถาบันตำรวจอย่างเป็นทางการปัจจุบันตำรวจมีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยสืบสวน สอบสวนจับกุม และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายรักษากฎหมาย และป้องกันไม่ให้เกิดความไม่สงบเกิดขึ้น ตำรวจในอุดมคติของสังคมไทย คือ ตำรวจที่ปฏิบัติตนโดยตั้งอยู่บนรากฐานของจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ถือประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และการไม่ทารุณกรรมต่อประชาชน ยึดถือพระบรมราโชวาทในคุณธรรม 4 ประการ และปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐและตามปฏิญญาของตำรวจด้วย ตำรวจในอุดมคติในพระพุทธศาสนานั้นต้องปฏิบัติตามธรรมใน 4 มิติ ได้แก่ มนุษยธรรมพื้นฐานส่วนตัว คือ ต้องไม่ล่วงละเมิดบุคคลอื่นในด้านร่างกาย ทรัพย์สิน คู่ครอง ข้อตกลง และการไม่ทำลายสุขภาพโดยการดื่มน้ำเมา ไม่ประมาทและมีความขยันหมั่นเพียร ธรรมในมิติส่วนครอบครัว ต้องรู้จักให้ความเคารพต่อบุพพการีและต้องดูแลครอบครัวให้มีความสุข ธรรมในมิติส่วนสังคม คือ การให้ความเคารพ อ่อนน้อม ใช้วาจาสุภาพต่อบุคคลที่เป็นที่เคารพนับถือในสังคม กระทำกิจการ ภาระ หน้าที่ต้องกระทำด้วยความเข้าใจ ไม่ใช้อารมณ์ในการทำงาน มิติสุดท้าย ธรรมสำหรับการปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา ตำรวจต้องรู้จักให้ความเคารพต่อฐานะตำแหน่งของตนและผู้อื่นที่อยู่สูงกว่าและที่ต่ำกว่า โดยเฉพาะต่อผู้บังคับบัญชา สรุปเป็นองค์ความรู้ได้ว่า “ถ้าตำรวจมีศีลธรรม ความกตัญญู เคารพนอบน้อม และปฏิบัติหน้าที่เต็มประสิทธิภาพ ชื่อว่าเป็นตำรวจในอุดมคติตามแนวพระพุทธศาสนา” หรือ “MDD MODEL”

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วัลลา ว. (2014). ตำรวจในอุดมคติตามแนวพุทธศาสน์. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 5(1), 21–32. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/173651
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

มหามกุฏราชวิทยาลัย. มูลนิธิ. พระไตรปิฎกฉบับครบรอบ 200 ปีแห่งราชวงศ์จักรีกรุงรัตนโกสินทร์ พุทธศักราช 2525 เล่มที่ 10, 11, 13, 14, 19, 20, 21, 23, 25, 2๘, 31. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2534.

กรมตำรวจ.การควบคุมอาชญากรรมจากสภาพแวดล้อม: หลักทฤษฎีและมาตรการประชาชนและความสงบสุขของสังคม. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์กรมตำรวจ,2531.

“พ.ร.บ. ว่าด้วยวินัยตำรวจ พ.ศ. 2477 มาตรา ๘,9”และระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวน พ.ศ.2544”.

พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547.“แผนพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2550 – 2554.

ประสพโชค พินิจศักดิ์.“การยอมรับในการส่งเสริมจริยธรรมของเจ้าพนักงานตำรวจท้องที่ในการบัญชาการตำรวจนครบาล”.วิทยานิพนธ์สังคมศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหิดล, 2530.

สถาพร หลาวทอง, พล.ต.ท. “โครงการตำรวจยิ้ม โดยอัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นบรรทัดฐานในการทำงาน เน้นเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”. ตำรวจไทย,(20 กุมภาพันธ์2549).

ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม. “เปิดขอบฟ้า คุณธรรม จริยธรรม”. 3 มกราคม 2555, (3 January, 2012)