บทบาทของพระสังฆาธิการที่ส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรม ในจังหวัดสกลนคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาบทบาทของพระสังฆาธิการที่ส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรมในจังหวัดสกลนคร 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลของพระสังฆาธิการที่มีบทบาทส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรม 3) เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาบทบาทของพระสังฆาธิการที่ส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่พระสังฆาธิการ จำนวน 232 รูป ซึ่งกำหนดด้วยวิธีการเปิดตารางของเกรจซี่และมอร์แกน และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถาม ซึ่งผ่านการทดสอบคุณภาพและทดสอบค่าสัมประสิทธิ์อัลฟา = 0.94 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว หากพบความแตกต่างจะทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่ แล้วนำมาวิเคราะห์และประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ผลการวิจัยพบว่า พระสังฆาธิการ มีบทบาทที่ส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรม โดยรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้านคือ ด้านการเผยแผ่ศาสนา พบว่า อยู่ในระดับน้อย ส่วนด้านการศึกษาสงเคราะห์ ด้านการเป็นพลเมืองที่ดี ด้านการปลูกฝังค่านิยม และด้านการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง และผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า พระสังฆาธิการที่ปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกัน มีบทบาทการส่งเสริมในการปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรมแตกต่างกัน โดยรวมทั้ง 5 ด้าน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นอกจากนี้พระสังฆาธิการ ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาบทบาทของพระสังฆาธิการที่ส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรม 1) ด้านการเผยแผ่ศาสนา คือขาดสื่อและอุปกรณ์ในการเผยแผ่ศาสนา ดังนั้นควรให้ส่งเสริมและสนับสนุนด้านสื่อและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มากกว่านี้ 2) ด้านการศึกษาสงเคราะห์ คือขาดหน่วยงานท้องถิ่นส่งเสริมทุนและสนับสนุนกองทุนให้เยาวชนกู้ยืมในการศึกษา ดังนั้นควรให้หน่วยงานท้องถิ่นส่งเสริมทุนและสนับสนุนเยาวชนให้เห็นคุณของการศึกษาเพื่อเป็นการพัฒนา 3) ด้านการเป็นพลเมืองที่ดี คือขาดการรณรงค์หรือการจัดกิจกรรมต่อต้านสิ่งที่ไม่ดีงามให้ชุมชนทราบข้อดี ข้อเสีย ดังนั้น ควรให้ชุมชนร่วมจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยเน้นการนำหลักธรรมไปใช้ในการดำเนินชีวิตมากขึ้น 4) ด้านการปลูกฝังค่านิยม คือไม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกหลานได้ปฏิบัติตาม และเห็นคุณค่าของความเป็นไทย ดังนั้น ควรนำหลักคุณธรรม ในเรื่องความกตัญญู ความรับผิดชอบ ความมีระเบียบวินัย และความซื่อสัตย์ 5) ด้านการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม คือพระสงฆ์อุทิศตนต่อสังคมไทยมีจำนวนไม่เพียงพอ ดั้งนั้นพระสงฆ์ควรตระหนักถึงบทบาทที่มีต่อสังคม ทั้งภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
Article Details
เอกสารอ้างอิง
พระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ). คู่มือพระสังฆาธิการ ว่าด้วยเรื่องการคณะสงฆ์และกรมการศาสนา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์กรมการศาสนา, 2542.
พระราชวิสุทธิภัทรธาดา.พระราชบัญญัติคณะสงฆ์และกฎมหาเถรสมาคม. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2547.
พระปลัดเกียรติศักดิ์ สินทวีกุล, “บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ จังหวัดกระบี่”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2548.