รายงานการวิจัยแนวทางการส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในแผนพัฒนาการอยู่ดีมีสุขเพื่อประชาชนโดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต) จังหวัดนครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อศึกษาการนำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่อยู่ในแผนพัฒนาการอยู่ดีมีสุขให้กับประชากรโดยองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการส่งเสริมกิจกรรมกับการนำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในแผนพัฒนาการอยู่ดีมีสุขของประชากรมาใช้โดยผ่านทางนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแต่ละตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราช จาการวิจัยพบว่า ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชต่างก็ประสบปัญหาในหลายประเด็นปัญหา ซึ่งปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยเกื้อหนุนมีความสัมพันธ์กับการเข้าใจหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาผ่านทางกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาไปใช้แก้ปัญหาให้กับตน แต่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราชต่างก็มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับแผนอยู่ดีมีสุขเพื่อประชาชนและกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในอัตราที่สูงพอที่จะดำเนินการให้เกิดประโยชน์ตามแผนพัฒนาการอยู่ดีมีสุขเพื่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพพอสมควร จากการวิเคราะห์ทดสอบสมมติฐานและทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างการนำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในแผนอยู่ดีมีสุขเพื่อประชากรมาใช้ตามแผนพัฒนาการอยงุ่ดีมีสุขพบว่า ค่าความสัมพันธ์ระหว่างความถี่ที่สังเกตได้กับความถี่ที่คาดหวังไว้แล้วพบว่า ไม่มีความแตกต่างกัน และได้ค่า Asymp. Sig = 0.000 ซึ่งน้อยกว่าระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 จะเห็นได้ว่า มีการยอมรับสมมุติฐานเกี่ยวกับความรู้ทางพระพุทธศาสนาของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดนครศีรธรรมราชนั้น มีข้อมูลและทัศนคติที่สอดคล้องและเหมาะสม และมีค่า T เป็นลบทั้งหมด ผลต่อวัตถุประสงค์ของการนำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาสู่การปฏิบัติในแผนอยู่ดีมีสุขจึงไม่แตกต่างและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จากการทดสอบผลของกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราชที่นำเข้าสู่การปฏิบติโดยใช้ค่า Mean Square มีค่าเป้นบวก แสดงว่า ผลของกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราชนำเข้าสู่การปรับปรุงแก้ไขสำหรับกรณีนี้อยู่ที่เรื่องสังคหวัตถุ 4 อันเป็นเรื่องของชุมชนและสภาพแวดล้อมของสังคมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนั้น จึงควรส่งเสริมให้มีกิจกรรมในการปฏิบัติในแผนอยู่ดีมีสุขของประชากรในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องของผลของกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราช นำเข้าสู่การปฏิบัติในแผนอยู่ดีมีสุขด้วยหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะสังคหวัตถุ 4 คือ หลักธรรมของการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข อันได้แก่ ทาน คือ การให้ ทั้งทานที่ให้เป็นบุญและทานที่ให้เป็นคุณ ปิยวาจา คือ การพูดวาจาที่ไพเราะ ฟังแล้วเกิดความชื่นใจ อัตถจริยา คือ ทำตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นที่อยู่ร่วมกันในสังคม สมานัตตา คือ วางตนให้เหมาะสมว่า ตอนนี้เราอยู่ในฐานะใด หลักธรรม 4 ประการนี้ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้ผู้คนในสังคมอยู่กันอย่างสันติสืบต่อไป เพราะเหตุนี้ ในกรณีนี้จึงต้องส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาด้วยการจัดกิจกรรมเชิงรุกที่ก่อให้เกิดผลของกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราชนำเข้าสู่การปฏิบัติในแผนอยู่ดีมีสุขให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วยหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ