วิพากษ์แนวคิดสาเหตุของการคอรัปชั่นตามหลักพุทธปรัชญาเถรวาท

Main Article Content

พระมหาสมเจต สมจารี

บทคัดย่อ

บทความนี้ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการวิพากษ์แนวคิดสาเหตุของการคอรัปชั่นซึ่งเป็นการเบียดบังทรัพย์ของทางราชการมาเป็นของตน หรือใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เป็นการให้และรับผลประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่เกินกว่าที่ควรจะได้ทำให้ระบบคลาดเคลื่อนเสียหาย และทำให้คนส่วนรวมเสียผลประโยชน์หรือสิทธิที่ควรจะได้รับ นับเป็นปัญหาร้ายแรงที่คอยบั่นทอนการพัฒนาประเทศทำให้ระบบถูกกัดกร่อนและเสียหาย แม้จะตรวจพบว่ามีการคอรัปชั่นเกิดขึ้นแต่ก็ไม่อาจจับตัวผู้กระทำผิดนั้นมารับโทษทางกฎหมายได้ จากการศึกษาพบว่า สาเหตุของการคอรัปชั่นนั้น หากตีความตามแนวคิดของโทมัส ฮอบส์และนิโคโล มาเคียเวลลี จะพบว่า มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ เกิดจากความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ เพราะมีรากฐานทางความคิดที่เชื่อว่า มนุษย์เกิดมาเลวตั้งแต่กำเนิดและชอบเสาะหาสิ่งต่างๆ ที่ตนเองปรารถนาอยู่เรื่อยไป นอกจากนี้ มนุษย์ยังเป็นผู้ที่โง่เขลา ปล่อยจิตใจให้ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของกิเลสตัณหา แต่ฌอง ฌากส์ รุซโซ กลับมองเห็นว่า สาเหตุของการคอรัปชั่นมาจากสาเหตุภายนอก คือ สิ่งแวดล้อมในสังคมรอบตัว เพราะมีรากฐานแนวคิดที่เชื่อว่า สภาพดั้งเดิมของมนุษย์เกิดมาด้วยธรรมชาติที่ดี แต่ที่มนุษย์ทำชั่วก็เพราะสังคมอยู่ในสภาพที่ขาดระเบียบวินัย มีความโหดร้ายทารุณมีการเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ส่วนสาเหตุของการคอรัปชั่นตามหลักพุทธปรัชญาเถรวาท ดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มเชื่อว่า สาเหตุของการคอรัปชั่นมาจากปัจจัยภายในเช่นเดียวกับแนวคิดของ ฮอบส์ และมาเคียเวลลี แต่เมื่อวิเคราะห์แล้วกลับพบว่าใช้ได้บนเงื่อนไขของผู้ที่เป็นอริยบุคคลเท่านั้น แต่หากเป็นเพียงปุถุชน สาเหตุของการคอรัปชั่นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งส่วนที่เป็นสาเหตุภายใน คือ กิเลสกาม และส่วนที่เป็นสาเหตุภายนอก ได้แก่ วัตถุกาม และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เกิดขึ้น ดังนั้น กรอบคิดเรื่องสาเหตุของการคอรัปชั่นในทางพุทธปรัชญาจึงมีกรอบคิดแบบ “ทวินิยม”

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สมจารี พ. (2017). วิพากษ์แนวคิดสาเหตุของการคอรัปชั่นตามหลักพุทธปรัชญาเถรวาท. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 8(2), 135–145. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/178262
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

การศาสนา, กรม. (2525). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง. กรุงเทพฯ: กรมการศาสนา.

จารุวรรณ สุขุมาลพงษ์ และคณะ. (2556). แนวโน้มของการคอรัปชั่นในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.

จารุวรรณ สุขุมาลพงษ์ และคณะ. (2556). แนวโน้มของการคอรัปชั่นในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.

ไทยรัฐ. (2559). “แนวความคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง (ตอนที่ 1)”, สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2559.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2552). พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จันทร์เพ็ญ.

เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ. (2553). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐประศาสนศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : บริษัท บพิธการพิมพ์จำกัด.

สุชาตา นนทวงศ์. (2559). “รายงานวิจัยเรื่องทัศนะและรูปแบบการคอรัปชั่นในสำนักงานการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี”. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2559

สมบัติ จันทรวงศ์ (แปล). (2542). เจ้าผู้ปกครอง (The Prince). กรุงเทพฯ : โครงการจัดพิมพ์คบไฟ.

Christman, J. (2002). Social and Political Philosophy : A Contemporary Introduction. New York : Routledge.

Hobbes, T. (1996). Hobbes : Leviathan. Trans. and ed. by Richard Tuck. Cambridge : Cambridge University Press.

Jean-Jaque Russeau. (1992). Social Contract and Other Political Writings. trans. and ed. by Victor Gourevich. Cambridge University Press : Cambridge.

Transparency International, (2011). “The corruption perceptions index measures the perceived levels of public sector corruption in countries and territories around the world”. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2559 http://www.transparency.org/cpi>

UNODC. (2009). “Corruption Compendium of international legal instrument on corruption. United Nations Office on Drugs and Crime, Vienna International Center”. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2559

Vatsyayan, K. (1986). Made Easy Ethics. New Delhi: Kedar Nath Ram Nath.