ตัวบ่งชี้ความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้สำหรับบุคลากร สังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

Main Article Content

สันติ อุนจะนำ

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาตัวบ่งชี้ความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ สำหรับบุคลากรสังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาโมเดลความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างของตัวบ่งชี้ความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้สำหรับบุคลากรสังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย 2) เพื่อตรวจสอบความตรงของโมเดลตัวบ่งชี้กับข้อมูลเชิงประจักษ์ ผู้วิจัยได้กำหนดเกณฑ์การคัดสรรตัวบ่งชี้ที่จะรวมไว้ในโมเดลว่าต้องมีค่าเฉลียเท่ากับหรือมากกว่า 3.00 และค่าสัมประสิทธิ์การกระจายเท่ากับหรือต่ำกว่า 20% ผู้วิจัยเก็บข้อมูลโดยใช้แบบมาตรวัดประเมินค่า 5 ระดับที่มีค่าความเชื่อถือ 0.96 จากลุ่มตัวอย่างที่เป็นเจ้าหน้าที่ และบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยจำนวน 640 คน ที่ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นอย่างเป็นสัดส่วน (proportional stratified random sampling) ได้วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และสถิติอ้างอิง และโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติและโปรแกรม AMOS ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1.ตัวบ่งชี้ความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้สำหรับบุคลากรสังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก 12 องค์ประกอบย่อย และ 52 ตัวบ่งชี้ จำแนกได้ดังนี้ องค์ประกอบหลักของวิสัยทัศน์ร่วม มี 3 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ 1) วิสัยทัศน์อนาคต มี 7 ตัวบ่งชี้ 2) มีเป้าหมาย มี 5 ตัวบ่งชี้ 3) มีกลยุทธ์ มี 3 ตัวบ่งชี้ องค์ประกอบหลักของการทำงานเป็นทีม มี 3 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ 1) ทีมงาน มี 7 ตัวบ่งชี้ 2) ผู้นำทีม มี 4 ตัวบ่งชี้ 3) กระบวนการของทีม มี 5 ตัวบ่งชี้ องค์ประกอบหลักของโครงสร้างสนับสนุน มี 3 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ 1) การกระจายอำนาจ มี 2 ตัวบ่งชี้ 2) การบังคับบัญชา มี 4 ตัวบ่งชี้ 3) การมอบหมายงาน มี 3 ตัวบ่งชี้ องค์ประกอบหลักของภาวะผู้นำ มี 3 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ 1) มีความรู้ มี 4 ตัวบ่งชี้ 2) ความรับผิดชอบ มี 4 ตัวบ่งชี้ 3) การมีส่วนร่วมในการทำงาน มี 3 ตัวบ่งชี้ และทุกองค์ประกอบหลัก มีค่าเฉลี่ยและค่าสัมประสิทธิ์การกระจายเพื่อคัดสรรไว้ในโมเดลตัวบ่งชี้ความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้สำหรับบุคลากรสังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยที่เหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือมีค่าเฉลี่ยเท่ากับหรือสูงกว่า 3.00 และค่าสัมประสิทธิ์การกระจายเท่ากับหรือต่ำกว่า 20% จำนวน 50 ตัวบ่งชี้ 2.โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าไค-สแควร์ ( ) เท่ากับ 36.65 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากับ 25 ค่านัยสำคัญทางสถิติ (P-value) เท่ากับ 0.062 ค่าดัชนีวัดระดับความสอดคล้อง (GFI) เท่ากับ 0.99 มีค่าดัชนีวัดระดับความสอดคล้องที่ปรับแก้แล้ว (AGFI) เท่ากับ 0.97 และค่าความคลาดเคลื่อน ในการประมาณค่าพารามิเตอร์ (RMSEA) เท่ากับ 0.024

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อุนจะนำ ส. (2017). ตัวบ่งชี้ความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้สำหรับบุคลากร สังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 8(2), 158–165. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/178274
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2542). การวิเคราะห์อภิมาน (Meta-Analysis).กรุงเทพมหานคร: นิชินแอดเวอร์ไทซิ่งกรุฟ.

____________. (2545). กระบวนการปฏิรูปเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ : การประเมินและการประกัน. กรุงเทพฯ : วี ที ซี คอมมิวนิเคชัน.

ประเวศ วะสี. (2549). คุณธรรมนำการพัฒนา ยุทธศาสตร์สังคมคุณธรรม. กรุงเทพฯ : ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน).

วรลักษณ์ ชูกำเนิดและเอกรินทร์ สังข์ทอง. (2557). โรงเรียนแห่งชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู เพื่อการพัฒนาวิชาชีพครูที่เน้นผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทราลัย, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

วีรวุธ มาฆะศิรานนท์. (2545). การพัฒนาวิสัยทัศน์ผู้นำ. กรุงเทพฯ : ธีระป้อมวรรณกรรม.

ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2550). การจัดการและพฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ :ธีระฟิล์มและไซเท็กซ์.

Bennis, W. &Nanus, B. (1997).Leaders : Strategies for taking chang. New York : Harper Colins.

DI Hard. (1997). Professional Learning Community (PLC)(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.kruinter.com/show.php?id_quiz=3239&p=1 (10 ธันวาคม 2557)

Stronge, J.H. (1998). Leadership skills in school and business ; What theorists say about applying leadership from the corporate world to the school area. American Association of School Administrators -School Administrator. Retrieved Nover 9,2000.