ผลของการใช้โปรแกรมพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนปราโมชวิทยารามอินทรา

Main Article Content

ประภาพร นวลสอาด

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายคือ 1) เพื่อศึกษาระดับความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนก่อนและหลังได้รับโปรแกรมพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนปราโมชวิทยารามอินทรา 1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม ( Cluster Sampling) การทดลองใช้แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pretest – posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ 1) แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และ 2) โปรแกรมพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ ค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test for dependent Sample) ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนมีคะแนนความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ก่อนการได้รับโปรแกรมพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนหลังการได้รับโปรแกรมพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนกลุ่มนี้ มีคะแนนความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์อยู่ในระดับสูง 2. นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สูงขึ้นหลังได้รับโปรแกรมพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นวลสอาด ป. (2017). ผลของการใช้โปรแกรมพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนปราโมชวิทยารามอินทรา. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 8(2), 275–284. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/178499
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2551). ทักษะการแก้ปัญหาเรื่องจำเป็นสำหรับเด็กไทย. [เอกสารอิเลกทรอนิกส์] สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2557 จาก http// wwwKriengsak.com.

นิพิฐพร โกมลกิติศักดิ์. (2553). การวิเคราะห์ผลของกระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ทักษะการทำงานกลุ่มและการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น : การทดลองแบบอนุกรมเวลา. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นันทนัช ตนบุญ. (2553). การใช้ เอส ที ไอ เอ็ม เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษ เชิงสร้างสรรค์และการแก้ป้ญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5. ปริญญานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (การสอนภาษาอังกฤษ) บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ประณต เค้าฉิม. (2554). การเรียนรู้และการจำ. กรุงเทพฯ: สาขาวิชาจิตวิทยา คณะจิตวิทยามหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต. ถ่ายเอกสาร.

พาสนา จุลรัตน์. (2548). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: ภาควิชาการแนะแนวและจิตวิทยาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.

พัชรา พุ่มเพชาติ. (2552). การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ภาวินี บุญธิมา. (2553). การจัดกิจกรรมแนะแนวด้วยเทคนิคการคิดแก้ปัญหาอนาคตตามแนวคิดของทอร์แรนซ์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. ปริญญานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว) บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ศิริพร แก้วอ่อน. (2557). การพัฒนาความสามารถและเจตคติในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์. ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สรวงสุดา ปานสกุล. (2545). การนำเสนอรูปแบบการเรียนรู้กระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์แบบร่วมมือในองค์กรบนอินเทอร์เน็ต. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต. สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อารีย์ พันธ์มณี. (2546). จิตวิทยาสร้างสรรค์การเรียนการสอน. กรุงเทพฯ: ใยไหมเอดดูเคท

Berk, L.E. and Winsler, A. (1995). A Scaffolding Children’s Learning : Vygotsky Early Childhood Education. Boston : Seven street studio.

Osborn, A. F. Applied the imagination : principles and procedures of creative thinking. New York : Scribner, 1957.

Parnes, S. J. Creative Behavior Guide Book. New York : Charles Scribner’s Son, 1967.

Passer, Michael W.; &Smith, Ronald E. (2007).Psychology: The Science of Mind and Behavior.Third Edition. New York: McGraw-Hill

Treffinger, D. J., Isaksen, S. G., & Firestien, r. L. (1983). Theoretical perspectives on creative learning and its facilitation: An overview. Journal of Creative Behavior, 17(1), 9-17.

Treffinger, D.J. Creative Problem Solving : overview and educational implications. Educational Psychology Review. 7 (September 1995) : 301-312.

Treffinger, J.D., Isaksen, G. S and Dorval, K.B. (2003).Creative problem solving (Cps version 6.1) A contemporary framework for managing change. Journal of Creative Problem Solving Group.[Online]. Available from http://cps com [2014,October 9].

Treffinger, D. J., Isaksen, S. G., & Dorval, K. B. (2003). Creative problem solving (CPS Version 6.1) A contemporary framework for managing change