การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนหมู่บ้านสระลงเรือ ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี

Main Article Content

วสิฐพัชร์ วาฤทธิ์

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อศึกษาและวิธีการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนบ้านสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี 2. เพื่อวิเคราะห์ สังเคราะห์ปัจจัยที่มีต่อการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนบ้านสระลงเรือ 3. เพื่อแสวงหานำรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนบ้านสระลงเรือ การวิจัยนี้เป็นวิจัยเชิงคุณภาพ วิธีการเก็บข้อมูลภาคสนามเริ่มจากการเลือกพื้นที่ในการวิจัย การสำรวจพื้นที่ก่อนลงภาคสนามและการวางแผนก่อนการปฏิบัติงาน การเลือกกลุ่มศึกษา/ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ และเทคนิคการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือวิจัยในการรวบรวมข้อมูลภาคสนามได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึกเป็นรายบุคคล แบบสัมภาษณ์เชิงลึกรายกลุ่ม แบบสังเกตสภาพแวดล้อม แบบสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม และแบบศึกษาประวัติชีวิต ผลของการวิเคราะห์ข้อมูลนำเสนอด้วยวิธีพรรณนาการโดยสรุปประเด็นได้ดังต่อไปนี้ สรุปเป็นข้อค้นพบ (Fact finding) ได้ว่า หมู่บ้าน สระลงเรือ สภาพสิ่งแวดล้อม บ้าน/ชุมชน ป่าโปรง ดินดอน สภาพแห้งแล้ง มีไร่มันสำปะหลัง ไร่อ่อย ถั่วลิสง ค้อนข้างแห้งแล้ง หน้าแล้งจะขาดน้ำ ต้องขอความช่วยเหลือสภาตำบลสระลงเรือ ส่วนสภาพความเป็นอยู่ รายได้ของประชาชนโดยเฉลี่ย คนละ 35,000 บาทต่อปี ที่ประกอบอาชีพในชุมชนส่วนหนึ่ง คือ กลุ่มแม่บ้านทำน้ำพริกที่เป็นผู้นำเป็นแกนนำในการแนะนำ ถือว่าเป็นวิสาหกิจชุมชน สถานที่สำคัญของชุมชน มีวัดสระลงเรือที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง น่าจะมีอายุ 400-450 ปี เป็นที่ตั้งของเรือสุพรรณหงส์จำลองใหญ่ที่สุดในโลก เจดีย์เก่าสมัยตอนปลายอยุธยา หลวงพ่อดำประทับอยู่ในวิหารแก้วหน้าพระอุโบสถวัดสระลงเรือ หลวงพ่อโตอยู่ในบริเวณวัด กิจกรรมชุมชน บ้านสระลงเป็นหมู่บ้านที่มีการดำรงชีวิตการเป็นอยู่แบบดั่งเดิม มีประเพณีวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา และวิถีความเป็นอยู่แบบชาวซึ่งต่อมาก็กลายเป็นกิจกรรมของชุมชน เช่น พิธีปิดทองหลวงดำ ซึ่งตรงกับกลางเดือน 4 ของทุกปีและกิจกรรมวิสาหกิจชุมชน เช่น การทำน้ำพริก มีประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เป็นของชุมชนเอง ปัจจุบันนี้โดยภาพรวมชุมชนยังช่วยกันดูแลและรักษาวัฒนธรรมดั่งเดิมเอาไว้ เช่น การนมัสการไหว้ขอพรหลวงพ่อดำ สร้างอุทยานนรก สวรรค์ขึ้น และพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดองค์สูง 101 เมตร ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ความคิดของชุมชนเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ ทำให้เกิดศรัทธาและความเข้าใจต่อพระพุทธศาสนาดียิ่งขึ้น ชุมชนมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสามารถเสริมสร้างทัศนคติที่ดีต่อพระพุทธศาสนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวของวัดสระลงเรือ ซึ่งก่อให้เกิดรายได้กับชุมชน แต่ทุกอย่างยังคงรักษาประเพณีวัฒนธรรมดั่งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี อีกอย่างชุมชนมีการนำหลักธรรม คือ ทางสายกลาง ความสันโดษ การประกอบอาชีพสุจริต ศีล 5 ฆราวาสธรรม พรหมวิหารธรรม มาใช้ในการดำเนินชีวิต ประชาชนในชุมชนบ้านสระลงเรือได้มีการนำความสันโดษ อยู่อย่างพอเพียง ประกอบอาชีพสุจริต พอใจในสิ่งที่ตนเอง ยินดีในสิ่งที่ตนเองได้ อยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วาฤทธิ์ ว. (2016). การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนหมู่บ้านสระลงเรือ ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 7(2), 72–85. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/179267
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐธรรมนูญ, พ.ศ. ๒๕๔๐.

ชลาพรรณ ลิขิตวศินกุล. “ปัจจัยที่มีผลต่อความตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของมัคคุเทศก์”. กรุงเทพมหานคร : วิลัยพรการพิมพ์, ๒๕๔๕.

ประสิทธิ์ เนื่องหล้า. บทบาทขององค์การบริหารส่วนตำบล และความคาดหวังของชุมชนต่อการจัดการการสิ่งแวดล้อมชุมชน. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๕.

พัฒนา มูลพฤกษ์. อนามัยสิ่งแวดล้อม. พิมพ์ครั้งที่ ๔. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, ๒๕๕๐.

ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. คู่มือการปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. ปทุมธานี : กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม, ๒๕๔๗.

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชินวัฒน์การพิมพ์, ๒๕๔๖.

________. คู่มือการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ, ๒๕๔๙.๒. วิทยานิพนธ์/สารนิพนธ์

ไกราศ เรืองทองวิไล. “การท่องเที่ยว : ผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อมและประชาชนในเขตอุทยานภูกระดึง อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, ๒๕๔๘.

เชิดพงษ์ มงคลสินธุ์. “การจัดการขยะมูลฝอยและการให้บริการของท้องถิ่น : กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดหนองบัวลำภู”. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยขอนก่น, ๒๕๔๔.

ธิดา ภัทรพันธุ์ชัย. “ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการเก็บขยะของเทศบาล : ศึกษาเฉพาะกรณีเทศบาลตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย”. สารนิพนธ์ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต.บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๔๙.

พัชรินทร์ พิพัทธจันทร์ศรี. “การจัดการความรู้สู่ชุมชนที่เอื้อต่อสิ่งแวดล้อมในจังหวัดลำปาง”. วิทยานิพนธ์ศิลปะศาตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๔

พีรวรรณ พงษ์ไพบูรณ์. “แนวทางการจัดเตรียมสวนสาธารณะระดับชุมชน ระดับเขตหรือย่านและระดับเมือง กรณีศึกษาผังเมืองรวมเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี”. วิทยานิพนธ์ปริญญาการวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : สถาบันเทคโนโลยีกระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , ๒๕๓๘.

สมหมาย ฤกษ์นาวี. “บทบาทของคณะกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม : ศึกษากรณี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๔๔.