การมีส่วนร่วมของชุมชนต่อการพัฒนาศักยภาพชุมชนในการแก้ปัญหาการใช้สารเสพติด
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Community Action Research: CAR) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อการพัฒนาศักยภาพชุมชนในการแก้ปัญหาการใช้สารเสพติด กรอบแนวคิดในการวิจัยได้แก่ ศักยภาพของชุมชน การมีส่วนร่วมของชุมชน และการวิเคราะห์ชุมชนแบบการมีส่วนร่วม (Participatory rural appraisal: PRA) เก็บข้อมูลโดยการสังเกต บันทึกการดำเนินงานของชุมชนและสัมภาษณ์สมาชิกที่เข้าร่วมในกิจกรรมใช้เวลา 6 เดือน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. การศึกษาบริบทของชุมชนที่เอื้อให้ชุมชนเข้มแข็งและมีศักยภาพ พบว่า ชุมชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันลักษณะเครือญาติมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอดเวลา มีประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม มีผู้นำที่มีความสามารถ และเมื่อมีปัญหาชุมชน ไม่มีกลไกทางสังคมที่ดีในการช่วยแก้ปัญหา ชุมชนมีทุนในชุมชนครบทุกด้าน ได้แก่ ด้านกายภาพเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพชุมชน นำมาสู่การมีส่วนร่วมในการค้นหาปัญหาและศึกษาแนวทางที่เหมาะสมนำสู่การสร้างแผนปฏิบัติการและแก้ปัญหาให้เหมาะสม 2. ศึกษาการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อการพัฒนาศักยภาพชุมชนในการแก้ปัญหาการใช้สารเสพติดผ่านการดำเนินงาน 3 ขั้นตอน คือ 1) การมองเป้าหมายร่วมกัน โดยการจัดประชุมชาวบ้านเพื่อสร้างความเข้าใจให้มีเป้าหมายที่ตรงกัน พบว่าปัญหาสำคัญที่สุด คือ ประชาชนใช้สารเสพติดมาก รองลงมา คือ รายได้น้อยไม่เพียงพอกับรายจ่ายส่วนเป้าหมายของชุมชน คือ ชุมชนต้องการกินดีอยู่ดีมีแฮงมีศีล มีธรรม 2) การสร้างโครงสร้าง/กลไกพื้นฐานเพื่อการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ พบว่า จุดแข็งของชุมชน คือ มีผู้นำที่ดีมีความเสียสละมีความเมตตามีคุณธรรมมีความสามัคคีในหมู่คณะ รองลงมา คือ มีกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่รวมตัวกันทั้งแบบเฉพาะกิจและแบบที่มีหน้าที่ชัดเจนที่เข้มแข็ง จุดอ่อนของชุมชน คือผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กในการดื่มสุรา 3) การทำโครงการร่วมกันโดยจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชน พบว่า ชุมชนมีการคิดวิเคราะห์จัดลำดับความสำคัญของปัญหา โดยคัดเลือกปัญหาการใช้สารเสพติด เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ชุมชนจึงได้จัดทำโครงการ จำนวน 5 โครงการ 3. แนวทางพัฒนาศักยภาพชุมชนในการแก้ปัญหาการใช้สารเสพติด พบว่า การพัฒนาศักยภาพของชุมชนโดยใช้ การประสานงานอย่างต่อเนื่องกับหน่วยงานของท้องถิ่นในการจัดสรรงบประมาณในการเสริมอาชีพ และการพัฒนาเครือข่ายทั้งระบบตำบลและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง การวิจัยครั้งนี้สรุปได้ว่า กระบวนการดังกล่าวเกิดแนวคิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเกิดกระบวนการคิด การทำงานอย่างเป็นระบบ มีความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของชุมชน เกิดการยอมรับสภาพปัญหาในชุมชน และร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งนี้กระบวนการการมีส่วนร่วมของชุมชนก่อให้เกิดประสบการณ์ที่สามารถนำไปพัฒนาชุมชนในการแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างเข้มแข็งและนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2556). รายงานสถานการณ์สารเสพติด. นนทบุรี: สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.
ธีระพงษ์ แก้วหาวงค์. (2544). กระบวนการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ประชาคม ประชาสังคม.ขอนแก่น: ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.
ธีรพงษ์ สินมณี. (2548). มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาบ้าในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในเขตเทศบาลเมืองน่าน จังหวัดน่าน: วิทยานิพนธ์ค.ม. มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์.
นิรันดร์ ไชยศรี. (2542). การใช้สารเสพติดของนักเรียน: กรณีศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย.วิทยานิพนธ์ศษ.ม. (อาชีวศึกษา). เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
นันทินี พันธวงคศ์. (2543). ปัจจัยการแพร่ระบาดของสารเสพติดในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการในกรุงเทพมหานคร. รายงานวิจัยเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2540 – 2544. กรุงเทพฯ.
นงคราญ ณรงค์ศักดิ์. (2550). การดำเนินงานป้องกันยาเสพติดของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา จังหวัดเชียงราย. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. (การบริหารการศึกษา). เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วิชา มหาคุณ. (2545). การศึกษาสภาพการรู้จักใช้และทัศนคติเกี่ยวกับสารเสพติดของนักเรียนและเยาวชนอายุ16 – 18 ปี พ.ศ. 2545. หน่วยศึกษานิเทศน์ กรมการฝึกหัดครู.
วิทยา เที่ยวบูรณะธรรม. (2551). ตำรายาเสพติด. กรุงเทพฯ : โอเอส. พริ้นติ้งเฮ้าส์.
ศักย์ศรน์ มงคลอิทธิเวช. (2552). กระบวนการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อให้เป็นชุมชนน่าอยู่ :กรณีศึกษาบ้านสบยาบ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สมทรง กาญจนะหุต. (2550). ปัญหายาเสพติดของประเทศไทย. กรุงเทพฯ : กองวิชาการกรมการแพทย์.
อานันท์ กาญจนาพันธุ์. (2544). วิธีคิดเชิงซ้อนในการวิจัยชุมชน: พลวัต และศักยภาพชุมชนในการพัฒนา.กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย.
อรอนงค์ ธรรมกุล. (2539). การมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่น. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Jackson, W., et al. (1989). The community development continuum community. Health Studies.13: 66 – 73
Lord, J. (1991). Lives in transition. In The Process of Personal Empowerment. Kitchener, Ont.: Center for Research and Education in human Services.
Marangoni, I.M. (1989). Attitudes of community public high school and area Vocational – technical school administrators, teachers and students toward the student substance abuser. Dissertation Abstracts International 50: 1565 A.
Rissel, C. (1994). Empowerment: The holy grail of health promotion. Health Promotion International. 9: 39 – 47.