การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวตามแนวพุทธธรรม

Main Article Content

วสมน ทิพณีย์

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยเรื่อง การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวตามแนวพุทธธรรม มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 2) เพื่อศึกษาการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 3) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 4) เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวตามแนวพุทธธรรม 5) เพื่อนำเสนอแนวทางและสร้างองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับ “รูปแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวตามแนวพุทธธรรม” วิทยานิพนธ์นี้ได้ดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพแบบเอกสาร (Qualitative Research) และสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interview) ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 10 รูป/คน โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มพระพุทธศาสนา กลุ่มแก้ไขความรุนแรงในภาครัฐ กลุ่มแก้ไขความรุนแรงในภาคเอกชน และกลุ่มครอบครัวตัวอย่าง จากนั้นจึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์และสังเคราะห์เพื่อตอบวัตถุประสงค์ ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเกิดจากสาเหตุแบ่งเป็น 3 ระดับ 6 ด้าน ได้แก่ 1) ระดับบุคคลมี 1 สาเหตุ ได้แก่ (1) เกิดจากนิสัยส่วนตัวที่ชอบก้าวร้าว รุนแรง 2) ระดับครอบครัว มี 3 สาเหตุ ได้แก่ (2) เกิดจากการไม่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว (3) เกิดจากขาดการวางแผนครอบครัวที่ดี (4) เกิดจากช่องว่างระหว่างวัยของคนในครอบครัวที่มีผลจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในสังคม และ ระดับสังคม มี 2 สาเหตุ ได้แก่ (5) เกิดจากขาดการวางแผนการเงินที่ดี และ (6) เกิดจากทัศนคติ ค่านิยมและความเชื่อที่ผิด หลักพุทธธรรมที่สามารถนำมาแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว แบ่งได้ 3 หมวด คือ 1)หมวดการวางแผนสร้างชีวิตครอบครัว ได้แก่ หลักสมชีวิธรรม 4 คือ มีความเชื่ออย่างเดียวกัน ไม่ล่วงละเมิดสิทธิต่อกันและกัน รู้จักเสียสละให้กัน และมีการตัดสินใจร่วมกัน 2) หมวดการปฏิบัติหน้าที่ต่อกันและกันด้วยดี เรียกว่า หลักหน้าที่ตามทิศ 6 ในส่วน 1) ทิศเบื้องหน้า (ปุรัตถิมทิศ) ได้แก่ หน้าที่บิดามารดาพึงปฏิบัติต่อบุตรธิดาและหน้าที่บุตรธิดาพึงปฏิบัติต่อบิดามารดา 2) ทิศเบื้องหลัง ได้แก่ หน้าที่ของสามีที่พึงทำต่อภรรยา และหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามี 3) หมวดการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันและกัน เรียกว่า หลักความสามัคคี ในครอบครัว (สาราณียธรรม 6) ได้แก่ 1-3) การแสดงออกด้วยเมตตา 3 ทาง 4) การเกื้อกูลแบ่งปันแลกันและกัน 5) การไม่ล่วงละเมิดกันและกัน และ 6) การใช้เหตุผลในการตัดสินใจร่วมกัน 4) หมวดการบริหารทรัพย์สิน เรียกว่า โภควิภาค 4 การบูรณาการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการใช้หลักธรรมแก้เหตุแห่งความรุนแรงทั้ง 6 ประการ ดังนี้ 1. การแก้ไขปัญหาอันเกิดจากทัศนคติ ค่านิยมและความเชื่อที่ผิด ๆ ต้องปรับวิธีคิดให้ถูกต้อง โดยตระหนักรู้ว่าความรุนแรง การล่วงละเมิดกันและกันเป็นสิ่งไม่ถูกต้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น มีการอบรมให้ความรู้อย่างต่อเนื่องในสังคมจนเกิดเป็นวัฒนธรรมการไม่ใช้ความรุนแรง 2. การแก้ไขนิสัยส่วนตัวที่ชอบก้าวร้าว รุนแรง ต้องฝึกให้มีสัจจะที่จะไม่แสดงกิริยารุนแรงและก้าวร้าวทั้งทางกายและทางวาจา ปรับเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีของตน แต่สร้างความเป็นผู้รักและสงสารผู้อื่นขึ้นในใจ 3. การแก้ไขความไม่มีมนุษยสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยการฝึกทำหน้าที่ของสามี ภรรยาและลูกอย่างจริงจัง กระทำด้วยความรักและเมตตาทางกายและวาจาอย่างเป็นรูปธรรม 4. การแก้ไขปัญหาการวางแผนครอบครัวด้วยการอบรมเรียนรู้เรื่องครอบครัวทั้งในด้านภาระ หน้าที่ ความคิด การตัดสินใจและการใช้เหตุผลในการอยู่ร่วมกันและแก้ปัญหาร่วมกัน 5. การแก้ไขปัญหาการวางแผนการเงินด้วยการรู้จักบริหารจัดการทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ทุกด้าน ทำงานที่สุจริตไม่เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย กำหนดรายรับรายจ่ายไว้อย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงอบายมุขสาเหตุอันจะทำให้เสียทรัพย์ 6. การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวอันเกิดจากช่องว่างระหว่างวัยในครอบครัวที่มีผลจากความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีในสังคมด้วยการทำหน้าที่ของบิดามารดาที่มีต่อลูกด้วยการพูดจาและแสดงออกด้วยความรักและเมตตา พ่อแม่ต้องมีเวลาให้ครอบครัว มีการเรียนรู้สังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างเข้าใจโดยเฉพาะเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย คือ การรักษาศีล การปลูกฝังความรู้สึกนึกคิดที่ดีและการมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในครอบครัว ซึ่งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ถูกต้อง จึงแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวได้ทั้งในระดับส่วนตน ครอบครัวและสังคม ที่เรียกว่า FPCW โมเดล

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ทิพณีย์ ว. (2016). การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวตามแนวพุทธธรรม. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 7(1), 51–60. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/184964
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.(2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

มหามกุฏราชวิทยาลัย.(2525). มูลนิธิ.พระไตรปิฎกและคัมภีร์อรรถกถา กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. รายงานข้อมูลและตัวชี้วัดด้านความรุนแรงในผู้หญิงและเด็กหญิง. โครงการภายใต้การสนับสนุนของ UNDP ประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร : กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว, 2554.

จิราภา เต็งไตรรัตน์ และคณะ. จิตวิทยาทั่วไป. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2547.

พรเพ็ญ เพชรสุขศิริ. การศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความรุนแรงในครอบครัวและความก้าวร้าวของเยาวชนไทย. กรุงเทพมหานคร : สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2539.

แม่ชีวงเพชร คงจันทร์. “การศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างหลักพุทธธรรมกับหลักกฎหมาย : กรณีศึกษาพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว”. สารนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2556.

พูนสุข มาศรังสรรค์. “การจัดการความรุนแรงในครอบครัวเชิงพุทธบูรณาการ”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2554.

แม่ชีวงเพชร คงจันทร์. “การแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนา”.สารนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,