การบริหารจัดการวัดมองผ่านปรัชญาหลังนวยุค : กรณีศึกษาวัดหน้าพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหลักการบริหารจัดการวัดในยุคพุทธกาลและยุคหลังพุทธกาลจวบจนถึงวัดหน้าพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อศึกษาปรัชญาหลังนวยุคในฐานะเครื่องมือที่จะนำมาใช้แก้ไขปัญหา เพื่อนำปรัชญาหลังนวยุคมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการวัดหน้าพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และรูปแบบการบริหารจัดการวัดอื่นๆ ด้วยท่าทีของปรัชญาหลังนวยุค การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยทางปรัชญาและศาสนา ผลการศึกษาพบว่า การปกครองคณะสงฆ์ในสมัยพุทธกาลนั้นยังไม่เป็นรูปแบบที่เป็นองค์กรเหมือนกับวัดในปัจจุบัน แต่เป็นการทำหน้าที่ของพระภิกษุทุกรูปที่อยู่ร่วมกันในอารามนั้นๆ มีสิทธิเท่าเทียมกันในการช่วยเหลือกันทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ เรียกว่าเป็นการปกครองโดยธรรมวินัย พระพุทธองค์ทรงมอบให้ถือธรรมวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์ ให้ถือปฏิบัติประหนึ่งเป็นองค์แทนศาสดา จนถึงสมัยปัจจุบันจึงมีการตรากฎหมายขึ้นเพื่อรองรับการบริหารงานคณะสงฆ์ มีการนำระบบสมณศักดิ์มาใช้ในการปกครอง สืบเนื่องจากสมัยสุโขทัยจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันการบริหารจัดการองค์กรสงฆ์และวัด เป็นแบบรวมศูนย์อำนาจตามแนวคิดแบบนวยุคนิยม เป็นเหตุให้การบริหารจัดการวัดไม่มีประสิทธิภาพ ขาดอิสระในการสร้างสรรค์งาน การจัดการตนเอง และมีแปลกแยกจากชุมชนมากขึ้น การประยุกต์ใช้ปรัชญาหลังนวยุคและปรัชญาพื้นฐานอื่นๆ มาใช้เป็นกรอบวิธีคิดใหม่ในการบริหารจัดการวัด โดยการบูรณาการศาสตร์การบริหารแบบสมัยใหม่เข้ากับหลักพระธรรมวินัย ในด้านการบริหาร การจัดการ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และหลักธรรมาภิบาล มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการวัด โดยอาศัยกลไกการบริหารแบบการมีส่วนร่วมของชุมชน โปร่งใส และตรวจสอบได้ และสามารถตอบสนองสังคมหลังสมัยใหม่ได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ผู้บริหารวัดสามารถบริหารกิจการคณะสงฆ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรวัดมีความเข้มแข็ง และเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติในอีกทางหนึ่งด้วย
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ธรรมทาส พานิช. (2542). ไชยา : ที่ตั้งนครหลวงของอาณาจักรศรีวิชัย. กรุงเทพมหานคร : อรุณวิทยา และธรรมทานมูลนิธิ.