แรงจูงใจในการบวชเรียนของพระภิกษุและสามเณรโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ในจังหวัดนครปฐม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาจุดประสงค์และแรงจูงใจในการบวชเรียนของพระภิกษุและสามเณร โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาในจังหวัดนครปฐม เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยสนับสนุนกับแรงจูงใจในการบวชเรียนและเพื่อทราบปัญหาและข้อเสนอแนะในการสร้างแรงจูงใจในการบวชเรียนของพระภิกษุสามเณรที่บวชเรียนจากจากโรงเรียนพระปริยัติธรรม 2 แห่งในจังหวัดนครปฐม ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นสามเณรมากกว่าพระภิกษุ มีอายุตั้งแต่ 14-15 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยมีผลการเรียนระหว่าง 2.01-3.00 ซึ่งอาชีพทางครอบครัวมีอาชีพรับจ้างหรือค้าขาย มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 5,000 บาท และมีมารดารบิดาอยู่ด้วยกัน โดยที่พระภิกษุสามเณรมีรายได้หลักจากกิจนิมนต์หรือบิณฑบาต ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ตั้งแต่ 200-500 บาท และพระภิกษุสามเณรมีจุดประสงค์ของการบวชเรียนเพื่อพัฒนาตนเอง รองลงมาบวชเพื่อตอบแทนคุณบิดามารดาและบวชเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาไว้ และด้านแรงจูงใจในการบวชเรียนคือการบวชเป็นการฝึกตนให้เป็นคนมีระเบียบวินัย รองลงมาคือ การบวชทำให้มีโอกาสสร้างความก้าวหน้าทางด้านการศึกษาได้ดีกว่า และการบวชทำให้รู้ว่าชีวิตมีคุณค่าและสามารถพัฒนาได้ ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยสนับสนุน พบว่า รายได้ทางครอบครัวมีความสัมพันธ์กับสถานภาพของพระภิกษุและสามเณรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ส่วนอายุ เกรดเฉลี่ย อาชีพผู้ปกครอง สถานภาพทางครอบครัว และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการบวชเรียน นอกจากนี้ พระภิกษุและสามเณรมีข้อเสนอแนะว่าควรมีห้องพยาบาล โรงพยาบาลเล็ก ๆ ในโรงเรียน แผนกดูแลยามเจ็บป่วยและปรับปรุงด้านยารักษาโรคอุปกรณ์ทางการปฐมพยาบาลและควรให้ทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือการศึกษาของพระภิกษุและสามเณร ให้ครูผู้สอนมีแต่รอยยิ้ม มีความเมตตา และไม่ดุร้าย และควรจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเวลาจนไม่มีเวลาพักผ่อน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษร. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์กรมศิลปากร, พ.ศ.2530.
ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์, พ.ศ. 2546.
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าด้วยโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา, พ.ศ. 2546.
พระเทพวิสุทธิกวี (พิจิตร ฐิตวณฺโณ). อานิสงส์การออกบวช. กรุงเทพฯ : มหามกุฏราชวิทยาลัย, พ.ศ. 2543.
พระราชวรมุนี. ทางสายกลางของการศึกษาไทย. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2530.
พระครูพุทธศาสนโสภณ (แคล้ว สุสํวุโต). การบรรพชาอุปสมบท. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์กรมการศาสนา พ.ศ. 2530.
รองศาสตราจารย์ดนัย โชยโยธา. สังคม วัฒนธรรม และประเพณีไทย. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์ พ.ศ. 2546.
โสภาค ภู่ดอก. “บทบาทพระสงฆ์ในการพัฒนาเยาวชน ศึกษาเฉพาะกรณี ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ภาค 16”. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2541.
หรรษา นิธิบุณยากร, พระมหา. “วิกฤตพุทธศาสนา : ศึกษากรณีการบรรพชาเป็นสามเณรในประเทศไทย”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2545.
อาทิตย์ อาทิจฺจวํโส (สุทธาวาสน์), พระปลัด. “วิเคราะห์การปรับตัวทางสังคมและวัฒนธรรม ของสามเณรชาวเขา วัดวิเวกวนาราม ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่”.วิทยานิพนธ์ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2549.
วิโรจน์ พรหมสุด, พระมหา“การบวช : กระบวนการขัดเกลาเพื่อความเป็นศาสนทายาทคุณภาพ”. วิทยานิพนธ์สังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543.