การสร้างพลังอำนาจในการบริหารงานบุคคลเชิงสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

Main Article Content

สมคิด สกุลสถาปัตย์

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง“การสร้างพลังอำนาจในการบริหารงานบุคคลเชิงสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน”เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดองค์ประกอบที่สำคัญและปัจจัยหลักความสำเร็จของการสร้างพลังอำนาจในการบริหารงานบุคคลเชิงสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญ ดำเนินการวิจัยโดยใช้เทคนิคการวิจัย คือ การวิเคราะห์และสังเคราะห์เอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้/ประสบการณ์การบริหารจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 11 คน การสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้/ประสบการณ์การบริหารจัดการโดยเฉพาะการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 8 คนเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง แบบวิเคราะห์เนื้อหาตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยและแบบตรวจสอบรายการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา และสังเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนดำเนินการตรวจสอบยืนยันองค์ประกอบที่สำคัญของการสร้างพลังอำนาจในการบริหารงานบุคคลเชิงสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานด้วยวิธีการประเมินตามกระบวนการอ้างอิงผู้ทรงคุณวุฒิโดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้/ประสบการณ์ในการบริหารจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน สถิติที่ใช้ในการประมวลผลการตรวจสอบยืนยัน คือ ความถี่ และร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า การสร้างพลังอำนาจในการบริหารงานบุคคลเชิงสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 5 องค์ประกอบ คือ การยกระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงวิชาการ การกระตุ้นแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ การจุดประกายพลังร่วม การสร้างสรรค์บรรยากาศการทำงานเชิงรุกและการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพครูเต็มตามศักยภาพ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สกุลสถาปัตย์ ส. (2019). การสร้างพลังอำนาจในการบริหารงานบุคคลเชิงสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 10(2), 178–196. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/232374
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ฐิติยา ปทุมราษฎร์.(มกราคม-มิถุนายน, 2557).“สภาพและปัญหาการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5.”วารสารบัณฑิตวิทยาลัยพิชญทรรศน์. 9(1): 17-25.

ณฐกร รักษ์ธรรม.(2015). “ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในภาคใต้.” วารสารราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.1(1):http://e-journal.sru.ac.th/ index.php/srj/article/view/182.

ทัน ไทรงาม.(มกราคม-เมษายน, 2560).“องค์ประกอบของการบริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานตามสมรรถนะครูในโรงเรียนสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กลุ่มภาคกลางและภาคตะวันออก.”Veridian E-Journal, Silpakorn Universityฉบับภาษาไทยสาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ.10 (1): 519-532.

เนตรนภา นามสพุง.( January-June, 2015). “การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เภอปากช่องสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 .”Journal of Nakhonratchasima College.9(1): 18- 24.

บุญยฤทธิ์ ปิยะศรี.(2556). รูปแบบการพัฒนาวิชาชีพครูเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการสอนที่เน้นความแตกต่างระหว่างบุคคล.วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต(หลักสูตรและการสอน).นครปฐม:บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ปาริชาติ สติภา. (2558). การบริหารงานบุคคลของสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 .ปริญญาครุ ศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารการศึกษา). ลพบุรี:มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.

พรฐิตา ฤทธิ์รอด.(มกราคม-มีนาคม, 2556). “รูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานแบบเสริม พลังอำนาจ.”วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. 15 (1 ):60- 69.

ภิราช รัตนันต์. (January-April 2017).“การจัดการทรัพยากรมนุษย์ร่วมสมัยในองค์การ.”วารสารบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น.1(1):21-38.

วรรณวิชนี ถนอมชาติและคณะ.(มิถุนายน, 2559).“ขีดความสามารถเชิงสมรรถนะเพื่อการสรรหาและคัดเลือก.” RMUTT Global Business and Economics Review.11 (1): 158-169.

วิไลพร ศรีอนันต์. (2559).สมรรถนะผู้บริหารที่ส่งผลต่อการบริหารงานบุคคลโรงเรียนเอกชนจังหวัดนครปฐม.ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารการศึกษา).นครปฐม:บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ศักดิ์ดา คำโส.(มกราคม-มีนาคม,2560).“การพัฒนาโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจทีมงานในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน.”วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.11(1):170-182.

สอาดลักษม์ จงคล้ายกลาง.(2556).การพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน.วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต (บริหารการศึกษา).กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำรวย ภักดี.(มกราคม-มิถุนายน, 2561).“รูปแบบเชิงสาเหตุการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในภาคใต้.”วารสารราชภัฏสุราษฎร์ธานี. 5(1) : 241-271.

โสภณ สวยขุนทดและคณะ.(พฤษภาคม-สิงหาคม, 2558).“การบริหารงานบุคคลด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการกับสมรรถนะของผู้ประกอบวิชาชีพครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4.”วารสารวิจัยและพัฒนาวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 10 (2) :165-175.

หอมหวน แสนเวียงจันทร์.(2559).สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาด้านการบริหารงานบุคคล อำเภอกบินทร์บุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 2. งานนิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต(การบริหารการศึกษา).ชลบุรี:คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.

เอมรินทร์ จันทร์บุญนาค.(กรกฎาคม-กันยายน, 2561).“การพัฒนารูปแบบการบริหารงานบุคคลสู่ความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา.”วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร.6 (3) :1041-1055.

อภิชาติ ทองน้อย.(กันยายน – ธันวาคม, 2555). “การเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.” วารสารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลย อลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์. 6(3) : 143-155.

มณฑ์ธวัล วุฒิวิชญานันต์.(ตุลาคม-ธันวาคม, 2556).“พลังอำนาจการทำงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5.”วารสารศึกษาศาสตร์ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น.7(4): 220-227.

สถาพร บุตรใสย์.(2561).อิทธิพลของกระบวนการเสริมสร้างพลังอำนาจที่มีต่อพลังอำนาจครู. สืบค้นเมื่อ 17 สิงหาคม 2561 จากhttps://www.researchgate.net/publication/27808033Xiththiphlkhxng krabwnkarserimsrangphlangxanacthimitxphlangxanackhru.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการประเมินสมรรถนะครู. กรุงเทพมหานคร:พริกหวานกราฟฟิค.

ศิริพร ใจห้าว.(2561).การเสริมพลังอำนาจครูในการทำงาน.สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม2561 จากhttp://bantungsan. blogspot.com/2013/06/blog-post_15.html.

Blanchard, Ken.(1988). “Shaping Team Synergy,”Today's Office. 22(7):91-95.

Freeman,R. E. (1984). Strategic Management: A Stakeholder Approach. MA: Pitman.

McClelland, D.C. (1961). The Achievement Motive. New York: Prentice-Hall.

McClelland, D.C.(1975).Power.New York : Invington.

Post, J. E., Lawrence, A. T., & Weber, J. (2002). Business and Society:Corporate.

Sasin Executive Education.(2516).ความเป็นเลิศในการบริการ.Retrieved June 2,2017 from execed. sasin.edu/ wp-content/uploads/2016/04/SE-TH.pdf.

Scott C. D., Jaffe D T. (1991). Empowerment : Building a committed Workforce. California :Koga Page.

Short, Paula M. & Rinehart, James S. (1992, November). “School Participant Empowerment Assessment of Level of Empowerment within the School Environment,” Educational and Psychological Measurement.52 (4) : 951–960