ผลการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ เรื่อง การใช้ท่าทางนาฏศิลป์ในการรำวงมาตรฐานโดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Main Article Content

ปาลภัสสร์ ภู่สากล

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาดนตรี-นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ15101 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เปรียบเทียบความสามารถในการรำวงมาตรฐานด้านทักษะปฏิบัติ วิชาดนตรี-นาฏศิลป์ ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) ศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี-นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ15101 โดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/5 โรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง 1 สังกัดเทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทดสอบค่าที (t-test) แบบ dependent ผลการวิจัยพบว่า แผนการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ15101 เรื่อง การใช้ท่าทางนาฏศิลป์ในการรำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ E1/E2 = 82.81/82.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 1) ผลการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ15101 เรื่อง การใช้ท่าทางนาฏศิลป์ในการรำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 2) ความสามารถการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การใช้ท่าทางนาฏศิลป์ในการรำวงมาตรฐานของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับดี 3) ความพึงพอใจที่มีต่อการผลการเรียนโดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ภู่สากล ป. . . (2020). ผลการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ เรื่อง การใช้ท่าทางนาฏศิลป์ในการรำวงมาตรฐานโดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 11(1), 61–73. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/244031
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ฐปนี ศรีสุคนธรัตน์. (2546). ผลของการใช้เทคนิคแม่แบบต่อเจตคติต่อการเรียนนาฏศิลป์ไทยของนักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ทิศนา แขมมณี. (2522). กลุ่มสัมพันธ์: ทฤษฏีและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ:

บูรพาศิลป์การพิมพ์. (2545). กลุ่มสัมพันธ์เพื่อการทางานและการจัดการเรียนการสอน. กรุงเทพฯ : นิชินแอดเวอร์ไทซิ่งกรู๊ป.

นฤมล ขันสัมฤทธิ์. (2542). การนำเสนอแนวทางการพัฒนาอาจารย์วิทยาลัยนาฏศิลป. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาอุดมศึกษา สาขาวิชาอุดมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พจน์มาลย์ สมรรคบุตร. (2538). แนวการคิดประดิษฐ์ท่ารำเซิ้ง. สำนักงานส่งเสริมวิชาการ สถาบันราชภัฏอุดรธานี.

มาลี จุฑา. (2542). จิตวิทยาการเรียนการสอน. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดทิพย์วิสุทธิ์.

เรณู โกศินานนท์. (2544). สืบสานนาฏศิลป์ไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.

หัสดินทร์ โคทวี. (2542). การใช้กิจกรรมที่เน้นกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ในการพัฒนาความเข้าใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ (ประถมศึกษา). เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

อรวรรณ บรรจงศิลป์. (2545). การใช้กิจกรรมที่เน้นกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อการเพิ่มระดับแรงจูงใจภายในของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาประถมศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

อุษา สบฤกษ์. (2536). การศึกษาพฤติกรรมการสอนนาฏศิลป์ไทยในวิทยาลัยนาฏศิลป์. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ภาควิชาอุดมศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อุษา สบฤกษ์. (2545). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนนาฏยสวรรค์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางนาฏศิลป์ไทยของผู้เรียนวิชานาฏศิลป์ไทยในสถาบันอุดมศึกษา. วิทยานิพนธ์ปริญญา ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอุดมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Willson, G. L. (1993). “The Effects of Guided Imagery on the Ensemble and Performance.” Dissertation ABSTRACTs International, 54(1): 1154-A.