ความสัมพันธ์ของการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ ต่อภาวะสมาธิสั้นของนักศึกษา วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดสุพรรณบุรี

Main Article Content

ปิยะ ทองบาง

บทคัดย่อ

        การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อศึกษาภาวะสมาธิสั้น และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์และเปรียบเทียบพฤติกรรมการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักศึกษาวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 181 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ และ แบบคัดกรองโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ฉบับภาษาไทย Adult ADHD Self-Report Scale (ASRS) Screener V1.1 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ t-test และวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOWA) ผลการวิจัยปรากฏว่า


       1. ผลการศึกษาพฤติกรรมการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ ของนักศึกษา พบว่า มีพฤติกรรมการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์อยู่ในระดับคลั่งไคล้สื่อสังคมออนไลน์


       2. ผลการศึกษาภาวะสมาธิสั้นของนักศึกษา พบว่า ข้อบ่งชี้อาการของโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ ของนักศึกษา ส่วนใหญ่ไม่มีอาการของโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่


       3. ผลการศึกษาความสัมพันธ์และเปรียบเทียบพฤติกรรมการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลกับภาวะสมาธิสั้นของนักศึกษา พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง เพศ ระดับชั้นปีการศึกษา การทะเลาะวิวาท และ ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ Social network โดยเฉลี่ยต่อเดือน มีความสัมพันธ์กับโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และเมื่อเปรียบเทียบพฤติกรรม พบว่า ความแตกต่างระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ไม่มีผลต่อพฤติกรรมการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ทองบาง ป. . (2021). ความสัมพันธ์ของการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ ต่อภาวะสมาธิสั้นของนักศึกษา วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสาร สถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 12(2), 1–15. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/yri/article/view/256527
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กันยา พาณิชย์ศิริ และ เบญจพร ตันตสูติ. (2559). การติดสื่อสังคมออนไลน์แะภาวะสมาธิสั้นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่ง ประเทศไทย, 61(3), 191 – 204.

เฉลิมพล ก๋าใน, ดาราวรรณ ต๊ะปินตา และสมบัคิ สกุลพรรณ. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างการติดเฟชบุ๊คและภาวะซึมเศร้าของวัยรุ่นในสถานบันอุดมศึกษาของรัฐ จังหวัดเชียงใหม่. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 5(2), 57-69.

เต็มหทัย นาคเทวัญ และจตุรพร แสงกูล. (2563). การตรวจคัดกรองโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่และปัจจัยที่สัมพันธ์ในนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 25(1), 16 – 29.

ตันติกร ชื่มเกษม. (2562). ความสัมพันธ์ของการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ที่มีต่อการใช้เวลากับ ครอบครัวของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์และความมั่นคง คณะรัฐศาสตร์และ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.

พรพรรณ จันทร์แดง. (2559). พฤิตกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยพะเยา. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา, 4(2), 44 – 54.

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน). (2559). รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย 2559. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2563. https://data.go.th/dataset/item_6aa9b49a-84b3-4c30-8821-322c165efd29.

White, C. M. (2011). Social media, crisis communication, and emergency management: Leveraging Web 2.0 technologies. CRC press.