ผลของสารสกัดด้วยน้ำจากรากขี้เหล็กต่อการตายและการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวพยาธิใบไม้ด้วยเทคนิคจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกน

Main Article Content

Chalobol Wongsawad
Pheravut Wongsawad

บทคัดย่อ

การทดสอบในห้องปฏิบัติการหาความเข้มข้น และระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่เหมาะสมของสารสกัดด้วยน้ำจากรากขี้เหล็ก (Cassia siamea Britt.) ต่อการเคลื่อนไหว และการตายของพยาธิในหลอดทดลองภายใต้กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง และผลที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวของพยาธิใบไม้ Stellantchasmus falcatus ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกน ทำการทดลองโดยตรวจสอบการตายของพยาธิใบไม้ในสารสกัดด้วยน้ำจากรากขี้เหล็กความเข้มข้น 6.25% 12.5% 25% และ 50% โดยเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมคือ Tyrode’s solution ที่ระยะเวลา 1, 6, 12 และ 24 ชั่วโมง ตามลำดับ พบว่าสารสกัดที่ความเข้มข้น 50% สามารถฆ่าพยาธิใบไม้ได้ 92.5% ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ส่วนสารสกัดที่ความเข้มข้น 6.25%, 12.5% และ 25% สามารถฆ่าพยาธิใบไม้ได้หมดภายในระยะเวลา 6 ชั่วโมง จากนั้นนำตัวอย่างของพยาธิใบไม้ที่ตายมาตรวจสอบสภาพพื้นผิวของลำตัวภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกน (SEM)พยาธิที่แช่ในสารสกัดที่ความเข้มข้น 6.25% พบหนามผนังลำตัวหลุดออกที่ระยะเวลาตั้งแต่ 6 ชั่วโมง ที่ระยะเวลา 12 ชั่วโมง ตรงส่วนปลายของหนามผนังลำตัวมีลักษณะงุ้มงอ ส่วนพยาธิที่แช่ในสารสกัดที่ความเข้มข้น 12.5% หนามผนังลำตัวเริ่มหลุดออก และเกิดการงุ้มงอที่บริเวณส่วนปลายหนามที่ระยะเวลา 6 ชั่วโมง พยาธิที่แช่ในสารสกัดที่ความเข้มข้น 25% และ 50% พบการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายกับพยาธิที่แช่ในสารสกัดที่ความเข้มข้น 12.5% แต่มีความรุนแรงมากกว่า จนกระทั่งไม่เห็นสภาพเดิม ของลักษณะพื้นผิวพยาธิ คือ หนามผนังลำตัวมีการหลุดออกตั้งแต่ระยะเวลา 1 ชั่วโมง และเริ่มเกิดเป็นรอยแตก และหลุดลอกของพื้นผิวที่ระยะเวลาตั้งแต่ 12 ชั่วโมง ผลจากการศึกษานี้สรุปได้ว่ารากขี้เหล็กสามารถใช้เป็นยากำจัดหนอนพยาธิใบไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Article Details

บท
บทความวิจัย