แนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพสู่ความเลิศของกองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับของ การจัดการเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาบุคลากร การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ความผูกพันองค์กร และการพัฒนาประสิทธิภาพสู่ความเป็นเลิศ 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของ การจัดการเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาบุคลากร การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ความผูกพันองค์กร ที่ส่งผลต่อการพัฒนาประสิทธิภาพสู่ความเป็นเลิศ และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพสู่ความเป็นเลิศของกองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณมีกลุ่มตัวอย่างคือ ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในกองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 300 ตัวอย่าง สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้าง สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึก ประกอบด้วย ผู้บังคับการ ผู้กำกับการ สารวัตรหน่วยปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร จำนวน 15 คน
และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนาประสิทธิภาพสู่ความเป็นเลิศ การใช้เทคโลยโลยีสารสนเทศ การพัฒนาบุคลากร และการจัดการเชิงกลยุทธ์ มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด 2) การพัฒนาบุคลากรมีอิทธิพลเชิงสาเหตุรวมต่อการพัฒนาประสิทธิภาพสู่ความเป็นเลิศ มากที่สุด รองลงมาได้แก่ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ความผูกพันองค์กร และการจัดการเชิงกลยุทธ์ ตามลำดับ และ 3) ได้แนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพสู่ความเป็นเลิศของกองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีลักษณะเป็นภาพแผนภูมิประกอบด้วยการพัฒนาบุคลากร ที่มีอิทธิพลรวมมากที่สุดเป็นฐานผลักดันอยู่ล่างสุด ส่วนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ความผูกพันองค์กรอยู่ตรงกลาง และกการจัดการเชิงกลยุทธ์ ส่งเสริมอยู่ในระดับบนด้วย นอกจากนั้การพัฒนาประสิทธิภาพสู่ความเป็นเลิศของกองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องประกอบด้วย การบริหารจัดการ การวางแผน การควบคุม ผลการวิจัยมีประโยชน์ต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาองค์กร สามารถนำองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นไปกำหนดประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ นโยบาย แผนงาน และโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาองค์กรได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กฤษฎา แก้วผุดผ่อง. (2558). สภาพการใช้ ปัญหา และความต้องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบุคลากรหอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล. วารสารการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย, 2, 9-15.
เกริกยศ ชลายนเดชะ. (2552). การนํากลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ ใน ประมวลสาระชุดวิชาแนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเชิงกลยุทธ์. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
กุลทัต หงส์ชยางกูร และปรัชญานันท์ เที่ยงจรรยา (ม.ป.ป.). การสร้างและการบริหารเครือข่าย. สงขลา:มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ชนนิกาต์ บุญยะประทีป. (2564). ฐานข้อมูลเบื้องต้น. บุรีรัมย์ : โรงเรียนภัทรบพิตร.
ครรชิต มาลัยวงศ์. (2559). เทคโนโลยีการบริหารการศึกษา. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
คำนาย อภิปรัชญาสกุล. (2559). การพัฒนางานด้วยระบบคุณภาพและเพิ่มผลผลิต (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: โฟกัสมีเดีย.
จอมพงศ์ มงคลวนิช. (2556). การบริหารองค์การและบุคคลกรทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Adler, P.A. & Adler, P. (1988). Intense loyalty in organizations: A case study of college athletes. Administrative Science Quarterly, 33(3), 401-417.
Arnstein, S.R. (1969). A Ladder of Citizen Participation. Journal of the American Planning Association, 35(4), 216-224.
Bennett, A. (2010). Employee voice initiatives in the public sector: views from the workplace. International Journal of Public Sector Management,23(5), 444-455.
Berlo, D.K. (1960). The Process of Communication; an introduction to theory and practice. New York: Holt Rinehart & Winston.
Blanchard, K. (2007). Leading at a higher level. Blanchard Management Corporation: Prentice Hall Pearson Education.