ด่านประเพณี: กลไก/เครือข่ายและระบบความสัมพันธ์ ในการจัดการแรงงานข้ามชาติของชุมชน ท้องถิ่น ด่านประเพณี: กลไก/เครือข่ายและระบบความสัมพันธ์ ในการจัดการแรงงานข้ามชาติของชุมชน ท้องถิ่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพัฒนาการและกระบวนการจัดการด่านประเพณีโดยชุมชน ท้องถิ่น 2) เพื่อศึกษากลไก เครือข่ายและระบบความสัมพันธ์ในการจัดการแรงงานข้ามชาติของชุมชนท้องถิ่นในด่านประเพณี โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ และการสนทนากลุ่มย่อย โดยมีขอบเขตในการศึกษาด่านประเพณีในเขตพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร
ผลการศึกษาพบว่าด่านประเพณีเป็นช่องทางธรรมชาติของการข้ามฝั่งไปมาหาสู่กันระหว่างพี่น้องฝั่งไทย-ลาว เป็นระบบความสัมพันธ์ทางเครือญาติมีการเดินทางไปมาหาสู่กันเป็นประจำ นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระหว่างปี พ.ศ. 2518-2532 ที่สปป.ลาว เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศส่งผลให้การข้ามไปมาของผู้คนสองฝั่งเต็มไปด้วยความหวาดระแวง เข้มงวดในการควบคุมการเข้าออกของผู้คนมากขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยมีนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ได้เอื้อให้เกิดการพัฒนาระบบเศรษฐกิจตามแนวชายแดนนำมาสู่การสร้างความสัมพันธ์อันดีขึ้นระหว่างไทยและเกิดวิถีการเดินทางข้ามฝั่งไปมาระหว่างพี่น้องไทย ลาว ผ่านด่านประเพณี ในปี พ.ศ. 2546-2551 มีการเปลี่ยนชื่อจากด่านประเพณี มาเป็น จุดรวมเรือ อันหมายถึง พื้นที่ของรัฐในการอนุญาติให้มีการจอดเรือเพื่อข้ามฝั่งมาเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ เช่น การเยี่ยมเยือนญาติพี่น้อง การเดินทางเข้ามาเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บ การข้ามฝั่งมาเพื่อซื้อหาสินค้าบางชนิด ภายใต้วัตถุประสงค์ของจุดรวมเรือที่หลากหลาย ทำให้มีหลายหน่วยงานของรัฐเข้ามาร่วมดำเนินการควบคุม ดูแล บริหารจัดการจุดรวมเรือ ตั้งแต่ปี พ.ศ 2551 จนถึงปัจจุบัน
กลไกการบริหารจัดการบริเวณจุดรวมเรือ หรือด่านประเพณีเป็นรูปแบบของการเฝ้าระวัง ควบคุมดูแลพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดนที่เน้นการควบคุม ดูแลผ่านระบบความสัมพันธ์เชิงเครือญาติเป็นหลัก เน้นการประนีประนอม ยืดหยุ่น พึ่งพาอาศัยกัน ในฐานะญาติพี่น้อง ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีการเลื่อนไหลของผู้คน ทุน และแรงงาน และอยู่นอกเหนือจากระเบียบการข้ามแดนที่กำหนดจุดการข้ามแดนที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัฐ ซึ่งก่อให้เกิดความลักลั่นของกฎหมายและนำมาสู่ความไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติ แต่ในขณะเดียวกัน บทบาทของด่านประเพณีก็ยังคงดำรงไว้ซึ่งบทบาทด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันของผู้คนสองฝั่ง นอกจากนั้นแล้วกลไกเครือข่ายระดับด่านประเพณียังถือได้ว่าเป็นทุนทางสังคมอย่างหนึ่งของพี่น้องไทยลาวในการใช้พื้นที่พรมแดนสร้างความสัมพันธ์ในเชิงเครือญาติ นำมาสู่การบริหารจัดการด่าน
Downloads
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Archavanitkul, K. (2003). The Status of migrant worker’s in Thailand and Research direction for consider, The Institute for Population and Social Research, Mahidol University, Nakorn Phathom.
Boonprakarn, K., et al, (2014). “Border” “Ethnicity” “Traditional Custom” : To Escape the Power of State in Thai-Burmese Borderland. In The APSA 2014 conference “TRANSFORMING SOCIETIES: CONTESTATIONS AND CONVERGENCES IN ASIA AND THE PACIFIC”, 15-16 February 2014. (1-2). Chiang Mai, Thailand: Regional Center for Social Science and Sustainable Development (RCSD)Faculty of Social Sciences.
Mattariganond, D. (2012). Lao history in various dimensions. Muangboran, Bangkok.
Karnchana, P. and Saisothorn, J. Cross Border between Thailand and neighborhood. Retrieved on 26 December, from : http://www.gotoknow.org/blogs/posts/23316017.
Khaeso, A. (2010). Thailand-Laos Economic Relations A.D. 1975-2005 (in Thai), Dissertation, M.A. (Historical Studies), Bangkok, Silapakorn University.
Nunkhantee, A. (2017, January). Tradition Customs : Social and Economy relation of YO community along Mekong river. Journal of The way Human Society. 5 (1) : 272-293.
Sangkhamanee, J. (2008). Border Studies and Anthropology borderlands : Open Space, boundary construction and cross border of knowledge in knowledge Cross border of Thai Social Science 60 years Anan Ganjanapan, ChiangMai University, Chiangmai.
Santasombat, Y. and et al (2012). Border and Cross Border. ChiangMai : The regional center for Social Sciences and Sustainable Development
Srihabun, K. (2009, January). Thai-Laos Relationship in history Book. Journal of Liberal Art . Special Volume : 248-249.
Srihabun, K. (2009, January). Thai-Laos Relationship in history Book. Journal of Liberal Art . Special Volume : 248-249.