การศึกษาความเชื่อของผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยที่มีต่อการอ่านภาษาญี่ปุ่น

Main Article Content

อัจฉรา อึ้งตระกูล

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเชื่อของผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยที่มีต่อการอ่านภาษาญี่ปุ่น และเพื่อเปรียบเทียบความเชื่อที่มีต่อการอ่านภาษาญี่ปุ่นของผู้เรียนที่มีผลการเรียนแตกต่างกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับความเชื่อ โดยอ้างอิงจากแบบสอบถามเกี่ยวกับความเชื่อในการเรียนภาษาที่สองของ Horwitz (1985, 1987, 1988) กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาเป็นผู้เรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นชั้นปีที่ 3 และ ชั้นปีที่ 4 จำนวน 50 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance)


ผลการศึกษาพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีความเชื่อด้านความถนัดที่มีต่อการอ่านภาษาญี่ปุ่น มีค่าเฉลี่ย 2.95 อยู่ในระดับปานกลาง 2) ความเชื่อด้านความยากง่ายที่มีต่อการอ่านภาษาญี่ปุ่น มีค่าเฉลี่ย 3.09 อยู่ในระดับปานกลาง 3) ความเชื่อด้านธรรมชาติของการอ่านภาษาญี่ปุ่น มีค่าเฉลี่ย 3.73 อยู่ในระดับมาก 4) ความเชื่อด้านกลยุทธ์ในการเรียนการอ่านและการสื่อสารมีค่าเฉลี่ย 3.59 อยู่ในระดับมาก และ 5) ความเชื่อด้านแรงจูงใจและความคาดหวังในการอ่านภาษาญี่ปุ่น มีค่าเฉลี่ย 3.55 อยู่ในระดับมาก ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบหาความแตกต่างของกลุ่มตัวอย่างที่มีผลการเรียนต่างกันกับค่าเฉลี่ยของความเชื่อ แต่ละด้านโดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนพบว่า ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับความเชื่อมั่น 0.01

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัยและบทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

กมลทิพย์ พลบุตร. (2551). ความเชื่อของผู้เรียนเกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่น. วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 5(2), 25-40.

การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. สืบค้นจาก http://arit.mcru.ac.th/images/KM/2557/57KM_1innovation.pdf

ปภังกร กิจทวี, ทรงศรี สรณสถาพร, กรัณศุภมาศ เอ่งฉ้วน และธนายุส ธนนิติ. (2555). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้กลยุทธ์การเรียนรู้ภาษาระดับความวิตกกังวลและความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของนักศึกษาปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจ. ในการประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 2. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

พัสวี ตินตบุตร. (2541). ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อความวิตกกังวลและผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสอนภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ.

ภัณฑิวา กฤษวัฒนากรณ์. (2557). การศึกษาความเชื่อของผู้เรียนและผู้สอนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยที่มีต่อคันจิ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาญี่ปุ่นศึกษา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. พิษณุโลก.

โยโกะ คะโนะเมะ และคะนะโกะ โยชิมิเนะ. (2015). ความเชื่อต่อครูผู้สอนภาษาญี่ปุ่นชาวญี่ปุ่น: ผลสํารวจจากแบบสอบถามของผู้เรียนและบริษัทย่อยของญี่ปุ่น. วารสารญี่ปุ่นศึกษา. 32(1), 18-32.

ศิริพร สุธรรมเตชะ. (2541). การศึกษาเปรียบเทียบความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์และความมีวินัยในตนเองในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษากับการสอนตามคู่มือครู. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ.

สมชาย ไชยเขตธนัง. (2551). ความเชื่อและกลยุทธ์ในการเรียนคันจิของผู้เรียนชาวไทย. สารนิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิตสาขาภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาต่างประเทศ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ.

สุพรพันธ์ จิตบรรเทา. (2552). การศึกษาความเชื่อ (belief) ในการเรียนภาษาญี่ปุ่นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายชาวไทยกรณีศึกษาโรงเรียนมัธยมในเขตกรุงเทพมหานคร. เจแปนฟาวน์เดชั่น, 7, 21-30.

สุพรรษา พิณศรี. (2554). การศึกษาความเชื่อของนักศึกษาอาจารย์และคนทํางานที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นที่มีต่อไกไรโงะ (คํายืมในภาษาญี่ปุ่น). วิิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ.

Cotterall, Sara. (1995). Readiness for Autonomy: Investigating Learner Beliefs. System, 23(2), 195-205.

Harrington, S. & Hertel, T. (2000). Foreign language methods students’ beliefs about language learning and teaching. Texas paper in foreign language education, 5, 53-68.

Horwitz,E.K. (1985). Using student beliefs about language learning and teaching in the foreign language methods course. Foreign Language Annals, 18(4), 333-340.

Horwitz, E. K. (1987). Surveying student beliefs about language learning. In A. Wenden & R. Rubin (Eds.), Learner strategies in language learning. (119–129). London: Prentice Hall International.

Horwitz, E. K. (1988). The beliefs about language learning of beginning university foreign language students. Modern Language Journal,72(3), 283- 294.

Shavelson, J. R. and Stern, P. (1981). Research on teachers’ pedagogical thoughts, judgments, decisions and behavior. Review of Education Research, 51, 455-498.

Wenden, A. (1987). How to be successful Language Learner: Insights and Prescriptions from L2 Learners. Learner Strategies in Language Learning ed. By Anita Wenden & Joan Rubin, London: Prentice International, 103-118.

Aungtrakul A. (2008). 「外国語教師の役割に関するタイ人日本語学習者のビリーフ–大学における日本語主専攻を対象として–」Bangkok: Thammasat University, 92-96

石橋玲子. (2009).「日本語学習者の作文産出に対するビリーフとストラテジーの特性–タイの大学生の場合-」『国際交流基金バンコク日本文化センター日本語教育紀要』第6号、国際交流基金、23-32

岡崎智己. (2003). 「タイにおける日本語母語話者教師と非母語話者のBELIEFS比較」『日本語教育方法研究会誌』第10 巻1号、日本語教育方法研究会、28-29

舘岡洋子. (2006).「ひとりで読むことからピア・リーディングへ日本語学習者の読解過程と対話的協働学習」東海大学[22] 福永達士. (2015). 「タイ人日本語教師の教師認知−タイ中等教育機関におけるビリーフ調査から−」『国際交流基金バンコク日本語文化センター日本語教育紀要』第 12号、国際交流基金、27-36.