ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 : ศึกษาเฉพาะการใช้แรงงานหญิงในอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช Legal Issues Concerning the Enforcement of the Labor Protection Act BE 2541 : Study on the Use of Female Workers in Amphoe Mueang Nakhon Si Thammarat Nakhon Sri Thammarat

Main Article Content

ณิชชา ยิ่งนคร

บทคัดย่อ

            การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาถึงสภาพปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ในการใช้แรงงานหญิงว่าได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 อย่างแท้จริงหรือไม่ โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้แรงงานหญิงในอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช 2) เพื่อศึกษาหาแนวทางการให้ความคุ้มครองขั้นต่ำในการใช้แรงงานหญิงตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 3) เพื่อศึกษาหาแนวทางพิจารณาแก้ไขกฎหมายและมาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่แรงงานหญิง


               ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้ คือ การวิจัยครั้งนี้บุคคลที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในการเก็บข้อมูล คือ กลุ่มผู้ใช้แรงงานหญิงในอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถาม โดยเก็บรวมรวมข้อมูลจากผู้ใช้แรงงานหญิงในอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชากรกลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประมวลผลของข้อมูลตามแนวทางการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงพรรณนา (Descriptive) โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) เพื่อแสวงหาข้อค้นพบตามวัตถุประสงค์ของงานวิจัย อันจะนำไปสู่แนวทางในการพัฒนาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ในเรื่องการใช้แรงงานหญิง


          ข้อค้นพบที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้ คือ 1.ควรแก้ไขหลักเกณฑ์ในเรื่องของการให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างชายและหญิง โดยเท่าเทียมกันในการจ้างงานให้ชัดเจนในความหมายของการจ้างงานว่าครอบคลุมในเรื่องใดบ้าง 2.ควรแก้ไขบัญญัติในมาตรา 15 และมาตรา 53 ที่ทับซ้อนกันอยู่ในกฎหมายฉบับเดียวกันให้รวมเป็นบทบัญญัติเดียวกันโดยบัญญัติให้มาตรา 15 ในเรื่องการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันในการจ้างงานให้ครอบคลุมถึงในเรื่องของการจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลาค่าทำงานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด ให้แก่ลูกจ้างเท่าเทียมกันไม่ว่าลูกจ้างนั้นจะเป็นชายหรือหญิงในงานที่มีลักษณะและคุณภาพเท่ากันรวมถึงในงานที่ปริมาณเท่ากันตามมาตรา 53 ด้วย    3.ควรมีการบัญญัติให้ชัดเจนในหลักเกณฑ์ของมาตรา 15 ที่บัญญัติว่า “เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของงานไม่อาจปฏิบัติเช่นนั้นได้” ควรจะกำหนดว่าลักษณะหรือสภาพของงานประเภทใดที่ไม่สามารถปฏิบัติต่อลูกจ้างชายและหญิงโดยเท่าเทียม 4.ควรแก้ไขและกำหนดให้ชัดเจนในเรื่องของข้อยกเว้นในงานที่ห้ามลูกจ้างหญิงทำงานหมายถึงงานประเภทใด 5.ควรมีการแก้ไขในเรื่องของการให้อำนาจแก่พนักงานตรวจแรงงานกำหนดให้อำนาจแก่พนักงานตรวจแรงานโดยตรงในการมีอำนาจพิจารณาและออกคำสั่งให้นายจ้างเปลี่ยนเวลาทำงาน หรือลดชั่วโมงทำงาน โดยไม่ต้องรายงานไปยังอธิบดีเพื่อรอคำสั่งเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการให้ความคุ้มครองแรงงานหญิง 6.ควรมีการกำหนดความหมายในเรื่องของการลาเพื่อการคลอดบุตรบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 7.ควรมีการกำหนดในเรื่องของสิทธิลาคลอดโดยกำหนดให้เป็นการบังคับลาหลัง ควรมีการกำหนดให้ลูกจ้างหญิงสามารถลาเพื่อไปดูแลบุตรได้ โดยลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาเพื่อการดูแลบุตร หรือหยุดพักเพื่อให้นมบุตรระหว่างเวลาทำงานได้วันละ 2 ครั้งอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที ซึ่งรวมแล้วไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยถือว่าการลาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของชั่วโมงทำงาน 8.ในเรื่องของการห้ามลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานในมาตรา 39 ควรมีการบัญญัติในเรื่องของหากได้รับการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าลักษณะของงานจะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อครรภ์ของลูกจ้างหญิงมีครรภ์ก็สามารถยืดหยุ่นให้ลูกจ้างมีครรภ์ทำได้ เป็นต้น 9.ควรมีการเผยแพร่ให้ความรู้แก่แรงงานหญิงให้ได้รับความรู้ในเรื่องสิทธิประโยชน์ของตนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 10.ควรมีการแก้ไขให้ครอบคลุมรวมถึงการกระทำการล่วงเกินทางเพศระหว่างลูกจ้างด้วยกัน

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Office of Women and Family Affairs. (2009). Standards and indicators of equality between
Women Male, Bangkok: Ministry of Social Development and Human Security, Women
and Youth Education Project Thammasat University. (In Thai)
Office of Women and Family Affairs. (2007). Manual for promoting gender equalityMale.
Bangkok: Ministry of Social Development and Human Security, Kasetsart University, Ladprao. (In Thai)
Office of Women and Family Affairs. (2010). 100 years International Women's Day from the
obligation to rights and Dignity of Thai women. No. 1. Bangkok: Ministry of Social
Development and Human Security Human security. (In Thai)
Ratanabodee, P (2001) Legal Problems in the Use of Female Labor under the Labor
Protection Act BE 1998. Bangkok: Faculty of Law Ramkhamhaeng university. (In Thai)
Saengkaew, M. (2001). Study of employment conditions under the Labor Protection Act BE
1998 of female workers in small establishments. Bangkok: Faculty of Social Welfare
Thammasat University. (In Thai)
Thanapibun, O. (2003). Report of the study of female labor use in massage parlor services.
Bangkok: Female and Child Labor Division, Department of Labor, Ministry of Interior.
(In Thai)
Vilawan, K. (2008). Labor law. Part One, Session 61, Lecture 3, Wednesday 11June 2008.
Bangkok: Legal Training Institute of the Thai Bar Association. (In Thai)