กระดิ่ง : พัฒนาการจากความเชื่อและศรัทธา สู่การแสดงสร้างสรรค์ “ระบำกระดิ่งสายพุทธชน” Development from Belief and Faith to the Creative Show “Buddhist Bell Dance”
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัย นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างสรรค์ชุดการแสดงจากองค์ความรู้เรื่องระฆังหรือกระดิ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ไว้ยืนยันความเชื่อความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช 2)ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์โดยนำคติความเชื่อในวิถีชีวิตของชาวพุทธในจังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างเป็นชุดการแสดงที่มีองค์ประกอบตามหลักการสร้างสรรค์งานนาฏศิลป์อย่างมีคุณภาพตรวจสอบได้ในชุดกระดิ่งสายพุทธชน ที่มีความสมบูรณ์ทั้งรูปแบบเอกสาร ซีดี สำหรับเผยแพร่ในโอกาสต่อไปโดยการศึกษาข้อมูลเชิงวรรณกรรมจากแหล่งศึกษาค้นคว้าที่มีคุณภาพ การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญแบบมีโครงสร้างและการคิดสร้างสรรค์ท่ารำชุดระบำกระดิ่งสายพุทธชน กระดิ่งหรือระฆังเป็นความเชื่อเรื่องการทำบุญของคนในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารพบทั่วไปทั้งบริเวณรอบองค์พระธาตุ และตามศาลาการเปรียญ มี 2 ลักษณะคือ แบบตี และแบบกระดิ่งลม ผู้วิจัยนำกระดิ่งลมมาพัฒนาเป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดงลักษณะกระดิ่งสาย องค์ประกอบของการแสดงคือ นักแสดงเป็นผู้หญิงทั้งหมดคัดเลือกจาก ใบหน้าสวย รูปร่างงามสมส่วน มีปฏิภาณไหวพริบดี ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคใต้มี ปี่ ซออู้ โหม่ง ทับ ฉิ่ง บรรเลงทำนองเพลง เพลงบอก เพลงนะโม เพลงสรณะ เพลงจิตตะภิรมย์ และ เพลงอุดมฤดี ใช้กระดิ่งสายที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์จากการร้อยเครื่องลูกปัดโนรามาประดับด้วยกระดิ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดง ท่ารำสร้างสรรค์จากทฤษฎีนาฏศิลป์ ทั้งนาฏยศัพท์ ภาษาท่าเพื่อประกอบเพลงบรรเลง คือ เพลงบอก มีท่ารำ 3 ท่า เพลงนะโม มีท่าเดียว เพลงสรณะ มีท่ารำ 10 ท่า เพลงจิตภิรมย์ มีท่ารำ 6 ท่า และเพลงอุดมฤดี มีท่ารำ 19 ท่า ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ชม ร้อยละ 4.70 เป็นประโยชน์ต่อศาสตร์ทางด้านนาฏศิลป์ ร้อยละ4.67 ร้อยละ 4.69 เป็นที่เชื่อถือและยอมรับในวงวิชาการหรือวิชาชีพในระดับชาติ/หรือนานาชาติ ร้อยละ 4.65 เป็นงานบุกเบิกทางวิชาการและมีการสังเคราะห์สร้างองค์ความรู้ใหม่ ร้อยละ4.62 สามารถนำไปใช้อ้างอิงหรือนำไปปฏิบัติได้ และร้อยละ 4.49 มีแนวคิดและการนำเสนอที่ชัดเจน ทุกข้อคำถามอยู่ในระดับมากและมากที่สุด การแสดงสร้างสรรค์ระบำกระดิ่งสายพุทธชนเหมาะกับการเป็นงานสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมความศรัทธาเป็นชุดระบำที่ให้คุณค่าทาววัฒนธรรมอีกชุดหนึ่ง
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Anantariyakun, A. (2007). Buddhism spread in Nakhon Si Thammarat province. Retrieved 2018, September 20, from https://www.ntbdays.com/16492
Dailynews. (2017). Chimes auspicious bells. Retrieved 2018, September 20, from https:// www.dailynews. co.th/article/208215
Khempila, P., Pinitpon, S. and Supatraiworapong, P. (2017). Activities- based learning to create Isarn traditional dancing style. Retrieved 2018, September 20, from https://www.tci thaijo.org/index.php.
Kromthai, S. (2012). Religion and beliefs. Retrieved 2018, September 20, from https://saranukromthai. or.th/
Laomanacharoen, S. (2017). "Bell" of King Ramkhamhaeng. Retrieved 2018, September 20, from https://www.matichonweekly.com/column/article_78551
Pholpikul, N. (2017). The Creative Dancing of “Khao-Khong-Phor” in The 9th Dao-Rung Look- Thung Naresuan Contest. Retrieved 2018, September 20, from https://huso.vru.ac.th/mis/ upload/teacher/files/master-216-1521090262.pdf
Phra Kru Hemjetiyanurak. (2017). Interview, September 28, 2017
Phra Kru Janya Suttiyano. (2015). Faith Belief. Retrieved 2018, September 20, from https://www.dhammaster. com/th/index.php?option=com
Phra Maha Virat Temasirom. (2017). Interview, September 28, 2017
Thongsamak, S. (2007). Jatukarmramathep. Bangkok: K.Polpim (1996). (in Thai)
The Royal Institute of Thailand. (2011). The Royal Institute Dictionary, 2011, in honor His Majesty the King on the occasion of the auspicious occasion of His Majesty's 7th Birthday Anniversary 5 December 2011. Bangkok: Siri Wattana Interprint. (in Thai)