การศึกษาวิเคราะห์บทเพลงเพื่อชีวิตของวงฌามา The Analytical study of the Thai Folk Song of the Chama Band

Main Article Content

โสวภา สงขาว

บทคัดย่อ

การศึกษาวิเคราะห์บทเพลงเพื่อชีวิตของวงฌามา มุ่งศึกษาประวัติความเป็นมา ศึกษาแนวคิดในการประพันธ์เพลง และศึกษาภาพสะท้อนทางสังคมวิถีชีวิตของชาวใต้ ที่สื่อผ่านทางบทเพลงเพื่อชีวิตของ วงฌามาในอัลบั้มชุดสาวเทคนิค การศึกษาใช้วิธีการศึกษาเชิงคุณภาพ โดยการศึกษาวิเคราะห์จากเอกสาร บทความ ตำราวิชาการ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และการสัมภาษณ์บุคคลข้อมูลเท่านั้น ผลการศึกษาพบว่า 1) ด้านประวัติความเป็นมาของวงฌามานั้  เป็นวงดนตรีแนวเพลงเพื่อชีวิตที่มีชื่อเสียงมากอีกวงหนึ่งของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2539 โดย ทรงกรด กระจ่างเมฆ ผู้เป็นหัวหน้าวง ชื่อของ “วงฌามา” มาจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า นกกางเขนดง (นกบินหลา) ได้เข้าสู่วงการเพลงเพื่อชีวิตโดยการสนับสนุนจากคุณอนุชิต สกุลอมร ผู้เป็นเจ้าของห้างราชธานีมาเก็ตติ้ง จังหวัดนครศรีธรรมราช สมาชิกวงฌามา มีทั้งหมด 5 คน ได้แก่ ทรงกรด กระจ่างเมฆ นัดฐา กระจ่างเมฆ กล้า กระจ่างเมฆ กิ่งแก้ว กระจ่างเมฆ และชนะ เกิดบางนอน ด้านผลงานเพลง วงฌามา มีผลงานทั้งหมด 12 อัลบั้ม ได้แก่ อัลบั้มชุด สาวเทคนิค น.ส.กระโปรงบาน บินหลาดง ฟ้าหลังฝน นายหนังหวังเหวิด  ขึ้นโขนชิงธง ฌามาคืนทุ่ง ฌามาวิถีใต้ นายหนังพันธุ์ร็อค อ้อร้อรอเธอ ตามหาสาวนุ้ย และคนกระจอก โดยอัลบั้มชุดที่ 1 ถึงชุดที่ 4 สังกัดค่ายเพลง ไอคิว ดี มีเดีย อัลบั้มชุดที่ 5 ถึงชุดที่ 7 สังกัดค่ายเพลง รถไฟดนตรี อัลบั้มชุดที่ 8 ถึงชุดที่ 10 สังกัดค่ายเพลง บริษัทเฮียจำกัด และอัลบั้มชุดที่ 11 ถึงชุดที่ 12 สังกัดค่ายเพลงอาร์สยาม 2) ด้านแนวคิดในการประพันธ์เพลงเพื่อชีวิตของวงฌามา ในอัลบั้มชุดสาวเทคนิค พบว่า แนวคิดในการประพันธ์เพลงเกิดจากแรงบันดาลใจ แนวคิดในการแสดงทัศนะต่อค่านิยมของสังคม และวัฒนธรรมวิถีชีวิตของชาวภาคใต้ ตามสภาพทางสังคมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง แนวคิดในการแสดงอารมณ์ความรู้สึก ตลอดจนถึงประสบการณ์ในชีวิตของศิลปินที่ได้ประสบพบเจอ แล้วนำมาเป็นข้อมูลในการประพันธ์เพลง โดยการนำเสนอเนื้อหาของเพลงเป็นภาษาถิ่นใต้ 3) ด้านภาพสะท้อนทางสังคมวิถีชีวิตของชาวใต้ ที่สื่อผ่านทางบทเพลงเพื่อชีวิตของวงฌามา ในอัลบั้มชุดสาวเทคนิค พบว่า มีภาพสะท้อนสังคมทางด้านต่างๆได้แก่ ด้านวัฒนธรรมภาษาถิ่นใต้ ด้านวัฒนธรรมดนตรีภาคใต้ ด้านศิลปวัฒนธรรมการแสดงของภาคใต้ ด้านวัฒนธรรมและค่านิยม ด้านวัฒนธรรมอาหารการกินของชาวภาคใต้ และด้านเศรษฐกิจของภาคใต้


 

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

Gingkum, W. (2004). Traditional language. 2nd ed. Bangkok: Kasetsart University. (in Thai)

Intarasunanon, K. (2003). Basic of Ethnomusicology. (Instruction Document) Fine and Applied Arts. Srinakharinwirot university. (in Thai)

Kuntup, W. (1997). What is an origin of Thai folk song?. Art and culture, 18(12), 101. (in Thai)

Pakaew, S. (2003). Analysis of social thoughts and culture in Shinakorn Grailard’s song. Master’s thesis majoring in Thai language. Mahasarakham university. (in Thai)

Phruksashewa, S. (2007). Analytic studying of Karabow’s folk songs. Thai message and Thai culture, 1(1), 126-13. (in Thai)

Sawangarom, P. & Rodloi, S. (2010). Analysis of using language, substance and aspects in Thai folk song. Thai Languae journal and Thai Culture, 4(7), 166-175. (in Thai)

Sokatiyanrak, N. (2004). Musical form and analysis. (3rd ed). Bangkok: Chulalongkorn university Press. (in Thai)

Suradesho, J. (1988). Social reflection of Thai folk songs since 1973-1985. Master’s Thesis. Phitsanulok: Srinakharinwirot university Phitsanulok, 1988. Photocopy. (in Thai)

Witooteerasan, N. (1976). Analysis of people literature. Bangkok: Krung Siam Press. (in Thai)