การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้ตนเองของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยาโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาการสร้างรายได้ของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยา 2. เพื่อพัฒนาแนวทางการส่งเสริมรายได้ให้ตนเองของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยา 3. เพื่อประเมินแนวทางการส่งเสริมรายได้ให้ตนเองของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยา ที่ประกอบด้วยระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณที่ใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดพะเยา จำนวน 361 คน ที่ได้มาโดยการสุ่มหลายขั้นตอน จากประชาชนทั้งหมด 3,741 คน และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการส่งเสริมรายได้ จำนวน 15 คน เพื่อประเมินแนวทางการพัฒนาการส่งเสริมรายได้ให้ตนเองของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยา และใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพในการศึกษากับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำงานด้านการสร้างรายได้ของผู้สูงอายุทั้งทางภาครัฐและเอกชน ตัวแทนผู้สูงอายุ และผู้นำชุมชน จำนวน 7 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ เชิงลึก ผลการวิจัยพบว่า 1) ประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพและปัญหาการสร้างรายได้ของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยาภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบปัญหาการสร้างรายได้ของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยาทั้ง 3 ด้านได้แก่ ด้านช่องทางการสร้างรายได้ ค่าตอบแทนจากรายได้ ทักษะในการสร้างรายได้ที่มีเพศ รายได้ การมีอาชีพต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 2) แนวทางการส่งเสริมรายได้ให้ตนเองของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยามีดังนี้ 1.ผู้นำชุมชนที่มีจิตอาสา 2.การมีส่วนร่วมของเครือข่ายกับชุมชน 3.การสร้างคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุ 4.การมีทรัพยากรในท้องถิ่น 5.การได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐและเอกชน 6.การปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 7.การคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ 8.การจัดจำหน่ายและการส่งเสริมการตลาด 9.ภูมิปัญญาท้องถิ่นและประสบการณ์ของผู้สูงอายุ 10.การได้รับการฝึกอบรมจากทางหน่วยงานทางภาครัฐและเอกชน 3) การประเมินแนวทางการส่งเสริมรายได้ให้ตนเองของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยาภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยกลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยกับแนวทางการส่งเสริมรายได้ให้ตนเองของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยาทั้งด้านความเหมาะสม ด้านเป็นประโยชน์ และด้านความเป็นไปได้
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Bureau of Social Statistics. (2014). Survey of the elderly population in Thailand 2014.
Bangkok: National Statistical Office. (in Thai)
Cronbach, L. (1970). Essentials of Psychological Test (5th ed.). New York: Harper Collins.
Wongprom, C. (2016). The research on Mechanisms for Promotion of Employment of Older
Persons who are Informal Laborers. (Research Report). Khon Kaen: Research and Development Institute Khon Kaen University. (in Thai)
Foundation of Thai Gerontology Research and Development Institute. (2015). Situation of the
Thai Elderly 2014. Bangkok: Author. (in Thai)
National Economic and Social Development Board. (2012). National Economic and Social
Development Plan Issue 11 (2012-2016). Bangkok: Author. (in Thai)
National Research Administration Organization. (2013). Strategies for research on the issue of
the elderly and the elderly society. Bangkok: Author. (in Thai)
Prachanpatjanat, P. (2002). Elderly Science Education. Bangkok: Department of Adult Education Faculty of Education. (in Thai)
Policy and Academic Group. (2016). Social Situation Report 2016. Office of Social
Development and Human Security, Phayao Province. Phayao: Author. (in Thai)
Woogwattanagoon. P. (2017). Professional training of Lam Kiao Subdistrict, Song District
Neighbor of Suphanburi. Independent Studies. (Master of Public Administration
Degree), Khon Kaen University, College of Local Administration. (in Thai)
Phwngsaijai. S. (2018). There is a high likelihood of aging claims from the elderly. (Research Report). Chiang Mai: Chiang Mai University. (in Thai)
Wanit, T. (2010). National Elderly Plan (2nd Ed.) Bangkok: Ministry of Social Development and Human Security. (in Thai)
Yamane, T. (1973). Statistics an introductory analysis (3rd ed). New York: Harper&Row.
Publications.
Kaiwan, Y. (2000). Fundamentals of Research. Bangkok: Suwiriyasan. (in Thai)
