นิยาม และมายาคติกับความเป็นจริงของ คนไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มุ่งทบทวนนิยามของคนไร้บ้าน รวมถึงวิเคราะห์และเปิดเผยให้เห็นถึงมายาคติที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความคิดความเชื่อของคนในสังคมไทยที่มีต่อคนไร้บ้าน การศึกษาครั้งนี้มีวิธีวิยาแบบการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการศึกษาเอกสารวิชาการเกี่ยวกับคนไร้บ้านในช่วง 10 ปีย้อนหลัง (2549-2558) ทั้งภาษาไทยจำนวน 4 เรื่อง และภาษาอังกฤษจำนวน 15 เรื่อง เพื่อรวบรวมและทบทวนนิยามและมายาคติที่มีต่อคนไร้บ้านทั้งในบริบทประเทศไทยและต่างประเทศ ผสมผสานกับการวิจัยเชิงปริมาณในการสำรวจคนไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยใช้วิธีแจงนับแบบการแจงนับสำมโนประชากรแบบคืนเดียว ทั้งในพื้นที่สาธารณะ และศูนย์พักพิงชั่วคราวในช่วงวันที่ 4 กันยายน เวลา 20.30 น ถึงวันที่ 5 กันยายน 2558 เวลา 05.00 น. เพื่อรวบรวมสถานการณ์ข้อเท็จจริงของคนไร้บ้าน
ผลการศึกษาพบว่า ในบริบทวัฒนธรรมไทยคนไร้บ้านคือ คนที่อยู่ในภาวะไร้บ้าน โดยรวมคนที่พักพิงในศูนย์คนเร่ร่อนไร้บ้านและสถานสงเคราะห์ คนไร้ที่พึ่งชั่วคราวของรัฐ และเอกชน แต่ไม่รวมถึงผู้ป่วยข้างถนน และขอทาน ซึ่งมีลักษณะเฉพาะออกไป และพบมายาคติที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยมากถึง 8 ชุดความเชื่อได้แก่ คนไร้บ้านคือคนป่วยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ คนไร้บ้านเป็นคนที่ไม่มีศักยภาพ ไม่มีต้นทุนใดๆ คนไร้บ้านไม่ใช่คนไทย คนไร้บ้านเป็นคนที่ไม่มีรากเหง้า ไม่มีบ้าน ไม่มีครอบครัว คนไร้บ้านขี้เกียจ ไม่ทำงาน ภาวะเศรษฐกิจเป็นสาเหตุอย่างเดียวที่ทำให้เกิดภาวะไร้บ้าน คนไร้บ้านเป็นคนอันตราย เสี่ยงต่ออาชญากรรม คนไร้บ้านต้องการเพียงบ้านและอาชีพ ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่พบจากข้อมูลเชิงประจักษณ์ที่ได้จากการสำรวจ
ดังนั้นการดำเนินการทางสังคมและของรัฐในการดำเนินการกับคนไร้บ้านต้องดำเนินการจากฐานข้อเท็จจริงของคนไร้บ้าน และการดำเนินการนำเอาข้อเท็จจริงมารื้อสร้างมายาคติที่ดำรงอยู่ในสังคมยังคงมีความสำคัญยิ่ง
Article Details
1) บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ความคิดเห็นและเนื้อหาเป็นของผู้แต่ง
2) ทัศนะและข้อคิดเห็นในวารสารวิจัยสังคมเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน มิใช่ทัศนะและข้อเขียนของกองบรรณาธิการฯ หรือสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ประสงค์จะนำข้อความใดๆ ไปผลิต / เผยแพร่ซ้ำต้องได้รับอนุญาตจากผู้เขียนและกองบรรณาธิการวารสารวิจัยสังคม ว่าด้วยกฎหมายลิขสิทธิ์