ความสนใจของนักศึกษาต่อกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนวิชาภาษาจีน : กรณีศึกษานักศึกษาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี (STUDENTS' ATTENTION TO THE ADDITIONAL ACTIVITIES OUTSIDE THE CHINESE CLASS: CASE STUDY OF STUDENTS THAT STUDY CHINESE PRINCE OF SONGKLA UNIVERSITY, SURAT THANI CAMPUS)

ผู้แต่ง

  • พิชัย แก้วบุตร คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี

คำสำคัญ:

ความสนใจ, กิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียน, ภาษาจีน

บทคัดย่อ

            ปัจจัยสำคัญในการเรียนภาษาจีนให้ประสบความสำเร็จคือความสนใจของผู้เรียน ซึ่งการสร้างความสนใจรูปแบบหนึ่งของการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในปัจจุบันคือการจัดกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงเป็นหลักและเพิ่มเติมเนื้อหาทางวิชาการเป็นส่วนเสริม บทความวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความสนใจของนักศึกษาต่อกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนในรายวิชาภาษาจีน และ 2) เพื่อเป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนในการจัดกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนวิชาภาษาจีนให้กับนักศึกษา ผู้วิจัยเก็บข้อมูลแบบสอบถามจากนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาจีน 1 และวิชาภาษาจีนฟัง - พูด และเข้าร่วมกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียน รวมจำนวน 155 ชุด

            ผลวิจัยพบว่า ในภาพรวมผู้เรียนสนใจกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนมีสถิติอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.09) ซึ่งผู้เรียนเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวมีส่วนช่วยเพิ่มพูนความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีนในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.00) และแนวทางการจัดกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนวิชาภาษาจีนควรเป็นการจัดกิจกรรมเชิงบูรณาการที่มีความหลากหลายของรูปแบบกิจกรรมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.09) นอกจากนี้ ผู้เรียนมีทัศนคติและความสนใจต่อวิชาภาษาจีนอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.16) ซึ่งผลดังกล่าวสามารถนำมาเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนและแนวทางการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาจีนต่อไปได้

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

[1] ฉาง จิ่งอวี. (2552). วัฒนธรรมในคำของภาษาจีน. กรุงปักกิ่ง: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง.
[2] พิชัย แก้วบุตร. (2562). นโยบายทางภาษาในการเผยเเพร่ภาษาและวัฒนธรรมจีนผ่านการทดสอบวัดระดับภาษาจีน HSK. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. 14(2), 307-325.
[3] จอห์น ดิวอี้. (2548). เราจะคิดอย่างไร·ประสบการณ์และการศึกษา (เจียง เหวินหมิ่น, ผู้แปล). กรุงปักกิ่ง: สำนักพิมพ์การศึกษาประชาชน.
[4] โรบินสัน เคน. (2559). โรงเรียนบันดาลใจ (วิชยา ปิดชามุก, ผู้แปล). กรุงเทพฯ: โอเพ่นเวิลด์ส พับลิชชิ่ง เฮาส์.
[5] หวาง เสวี่ยซง. (2557). แนวโน้มกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมภายใต้การจัดการเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยครุศาสตร์ยูนนาน. 12(5), 1-5.
[6] จาง ฮุ่ย. (2557). การทบทวนการออกแบบกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมของสถาบันขงจื่อ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยครุศาสตร์ยูนนาน. 12(5), 85-87.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-06-30

รูปแบบการอ้างอิง

แก้วบุตร พ. . (2020). ความสนใจของนักศึกษาต่อกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนวิชาภาษาจีน : กรณีศึกษานักศึกษาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี (STUDENTS’ ATTENTION TO THE ADDITIONAL ACTIVITIES OUTSIDE THE CHINESE CLASS: CASE STUDY OF STUDENTS THAT STUDY CHINESE PRINCE OF SONGKLA UNIVERSITY, SURAT THANI CAMPUS). วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 12(23, January-June), 27–38. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/swurd/article/view/244100