การพัฒนาโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนของ สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๓
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารการทำวิจัยในชั้นเรียนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต ๓ โดยใช้วิธีในการดำเนินการวิจัย คือ การกำหนดกรอบแนวคิดที่ใช้ในการวิจัย การออกแบบและสร้างโปรแกรมสารสนเทศและการทดลองใช้โปรแกรมสารสนเทศเพื่อการบริหารด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ (๑) แบบบันทึกข้อมูล (๒) ผังชุดคำสั่ง/โครงสร้างของโปรแกรมและโปรแกรมสารสนเทศและแบบประเมินความเหมาะสมและเป็นไปได้ (๓) แบบประเมินประสิทธิภาพของโปรแกรม สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา และการวิเคราะห์ทางสถิติ ค่าสถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
๑. สารสนเทศเพื่อการบริหารการทำวิจัยในชั้นเรียนมี๖ด้าน คือ (๑) ข้อมูลครู (๒) ความรู้เกี่ยวกับการทำวิจัย (๓) การดำเนินงานการทำวิจัย(๔)การสนับสนุนของผู้บริหารในการทำวิจัย (๕)ประสิทธิผลจากการทำวิจัย และ (๖) การเผยแพร่งานวิจัย
๒. โปรแกรมสารสนเทศเพื่อบริหารด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนพัฒนาขึ้นบนระบบปฏิบัติการ โดยใช้ระบบฐานข้อมูล MySQL กับใช้ภาษา PHP ในโปรแกรม Macromedia Dreamweaver 8 มีความเหมาะสมและเป็นไปได้ทั้ง (๑) ด้านปัจจัยนำเข้า (๒) ด้านการใช้งานและความสามารถและ (๓) ด้านผลลัพธ์ของโปรแกรม
๓. ประสิทธิภาพโปรแกรมสารสนเทศโดยรวมอยู่ระดับดีมากคือ = ๔.๖๔ และ S.D =๐.๔๘
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. การประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน: แนวทางการศึกษาและพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๔๓.
กรมวิชาการ, กระทรวงศึกษาธิการ. ความคิดสร้างสรรค์ หลักการ ทฤษฏี การเรียนการสอน การวัดผลประเมินผล. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๓๔.
คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, สำนักงาน. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค, ๒๕๔๕.
คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ, สำนักงาน. พัฒนาการของคุณภาพ นักเรียนประถมศึกษาและแนวทางการประเมิน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา, ๒๕๔๔.
นิศารัตน์ เชาว์ปรีชา. การพัฒนาการบริหารระบบสารสนเทศของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๑. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๖.
ปรีชา วิหคโต และคณะ. คู่มือการพัฒนาโรงเรียนเข้าสู่มาตรฐานการศึกษา: การนำกระบวนการทักษะการเรียนไปใช้ในการเรียนรู้โครงการประกันคุณภาพการศึกษา. กรุงเทพมหานคร:กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๔๓.
พระสกล ฐานธมฺโม (อินทร์คล้าย). การบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา ในจังหวัดนครสวรรค์.วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๖.
มนสิช สิทธิสมบูรณ์. รายงานการวิจัยการศึกษาสภาพและรูปแบบการทำวิจัยในชั้นเรียน. ภาควิชาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, ๒๕๔๔.
วิชาสุทธิ์ ทิพย์วงศ์. บทบาทผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในการส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนของครูกลุ่มโรงเรียนเกาะจันทร์ ๒ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรีเขต ๒. ภาคนิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์, ๒๕๕๒.
วิลัยภรณ์ อารมณ์สวะ. การพัฒนาบุคลากรทางด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร. การค้นคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๕๑.
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สุวฑตนมหาเถระ). หลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร: มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๕๔.
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) และคณะวิสุทธิมรร. วิสุทธิมรรค ฉบับแปลโดย เล่ม ๑ ภาคสมาธิ. ปริเฉทที่ ๔ ปถวีกสิณนิเทศ. ๒๕๕๘, หน้า ๒๖๑.
สุวิมล ว่องวาณิช. การวิจัยการประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๔๘.
สำนักทดสอบทางการศึกษา, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. แนวทางในการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบหลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๔.
โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพมหานคร: ซีเอ็ด ยูเคชั่น, ๒๕๕๔.
