รูปแบบการปลูกจิตสำนึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย เชิงพุทธบูรณาการ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑

Main Article Content

กัญญาพัชร เกตุแก้ว
ประพันธ์ ศุภษร
ตวงเพชร สมศรี

บทคัดย่อ

          ดุษฎีนิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเสนอรูปแบบการปลูกจิตสำนึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย เชิงพุทธบูรณาการ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วยการศึกษาภาคเอกสารและภาคสนามโดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ๑๘ รูป/คน ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญพระพุทธศาสนา คือพระสงฆ์ จำนวน ๒ รูป ผู้อำนวยการโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑ ท่าน คุณครูที่ปรึกษาระดับมัธยมศึกษา ปีที่ ๔-๖ จำนวน ๓ ท่าน ผู้ปกครองนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑ จำนวน ๓ คน  และนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน ๙ คน ผลของการวิจัยพบว่า (๑) การปลูกจิตสำนึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่มีวินัยที่ดีเป็นพื้นฐานของความสำเร็จและสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในสังคม ให้นักเรียนมีพฤติกรรมและอารมณ์ที่สามารถควบคุมตนเอง ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน เมื่อนักเรียนเติบโตขึ้น สามารถส่งต่อความสุขไปสู่สังคมได้ด้วยจิตสำนึกที่ดี (๒) หลักพุทธธรรมที่เหมาะสมกับการปลูกจิตสำนึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย ได้แก่ กุศลกรรมบถ ๑๐ และทิศ ๖ ซึ่งทั้ง ๒ หลักธรรมเป็นหลักธรรมที่สอนการประพฤติปฏิบัติตนต่อตนเองและต่อผู้อื่น (๓) “KANYAPAT MODEL” เป็นรูปแบบการปลูกจิตสำนึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย  เชิงพุทธบูรณาการ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑ ประกอบด้วย ๑) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย หมายถึง ลักษณะที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนประกอบด้วย ตรงต่อเวลา รับผิดชอบการทำงาน และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ๒) ทฤษฎีของเมาเรอร์ (Mowrer) เมาร์เรอร์ ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงดูเป็นอันดับแรกการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเติบโต อันดับสองคือ การให้ความรัก ความอบอุ่น ความผูกพัน  การเลี้ยงดูและการให้ความรัก จะนำไปสู่การปฏิบัติและการถ่ายทอดซึ่งแสดงออกด้วยการกระทำและคำพูด  ๓) หลักพุทธธรรมสำหรับการปลูกจิตสำนึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย ประกอบด้วย หลักกุศลกรรมบถ ๑๐ หมายถึงหนทางแห่งการทำดี ๑๐ ประการ คือคิดดี ทำดี พูดดี  และหลักทิศ ๖ คือหลักการเกื้อกูลต่อบุคคลรอบข้างหรือการสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อบุคคลอื่น เกื้อกูล หมายถึงความสัมพันธ์อันดีที่ประพฤติปฏิบัติตนกับบุคคลรอบข้างทั้ง ๖ ทิศ ได้แก่ เกื้อกูลครอบครัว เกื้อกูลการศึกษา เกื้อกูลศาสนา เกื้อกูลกัลยาณมิตร

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เกตุแก้ว ก., ศุภษร ป., และ สมศรี ต. “รูปแบบการปลูกจิตสำนึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย เชิงพุทธบูรณาการ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑:”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, ปี 9, ฉบับที่ 3, ธันวาคม 2022, น. 18-29, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/view/258190.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย. พิมพ์ครั้งที่ ๔๓. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ผลิธัมม์, ๒๕๕๘.

พระราชดำรัสพระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตภาคใต้ จังหวัดสงขลา ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จังหวัดสงขลา ๑๐ กันยายน ๒๕๒๔.

พระอธิการประมวล อธิปญฺโญ (จันทรประทักษ์) และคณะ. “หลักกุศลกรรมบถ ๑๐ กับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬา. ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๓ (กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๖๓): ๔๓.

รัชชัย ขยันทำ. “พุทธจริยศาสตร์ : พันธสัญญาที่บุคคลพึงกระทำต่อกันในทิศ ๖”. วารสารปรัชญาปริทรรศน์. ปีที่ ๒๓ ฉบับที่ ๑ (มกราคม - มิถุนายน ๒๕๖๓): ๖๙.

สมภาร พรมทา. พุทธศาสตร์กับปัญหาจริยศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๑.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๑.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติฉบับ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ๒๕๖๐.

สุนีย์ ภู่พันธ์. แนวคิดพื้นฐานการสร้างและการพัฒนาหลักสูตร. เชียงใหม่: โรงพิมพ์แสงศิลป์, ๒๕๔๖.