รูปแบบการจัดการศึกษาและสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ในวิกฤตการณ์โควิด-๑๙ เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนบ้านหุบบอน ชลบุรี โรงเรียนบ้านหุบบอน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาสภาพบริบทปัญหาและความต้องการพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนบ้านหุบบอนในสถานการณ์วิกฤตการณ์โควิด-๑๙ (๒) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาและสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ในวิกฤตการณ์โควิด-๑๙ เพื่อพัฒนาคุณภาพ นักเรียนโรงเรียนบ้านหุบบอน (๓) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการศึกษาและสร้างโอกาส ทางการเรียนรู้ในวิกฤตการณ์โควิด-๑๙ เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนบ้านหุบบอน และ (๔)เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการศึกษาและสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ในวิกฤตการณ์ โควิด-๑๙ เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนบ้านหุบบอน กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ (๑) ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพการศึกษา (๒) ครูและบุคลากรทางการศึกษา (๓) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (๔) นักเรียน และ (๕) ผู้ปกครองของนักเรียน โรงเรียนบ้าน หุบบอน เครื่องมือในการวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างแบบบันทึกการประชุม และแบบวิเคราะห์รูปแบบการบริหารสถานศึกษา แบบบันทึกการปฏิบัติงานแบบประเมินผลการใช้รูปแบบ การบริหารสถานศึกษา และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคแบบสามเส้า และสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า (๑) การจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาที่ใช้ในสถานการณ์โควิด-๑๙ มี ๓ รูปแบบหลัก โดยมีปัญหาในด้านบุคลากรและความชัดเจนของระบบ มีความต้องการในการ พัฒนารูปแบบให้เป็นระบบ มีรูปธรรมชัดเจน และมีปัญหาในด้านการจัดการทรัพยากรแหล่งเรียนรู้ (๒) รูปแบบการจัดการศึกษาและสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ในวิกฤตการณ์โควิด -๑๙ เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนบ้านหุบบอนมีองค์ประกอบ ๑) ปัจจัยนำเข้าในการขับเคลื่อน การบริหารสถานศึกษา ๒ ปัจจัยหลักและปัจจัยขับเคลื่อนใช้กระบวนการบริหารจัดการแบบ PDCA ๓) ปัจจัยสนับสนุน ประกอบด้วย ๓.๑) กระบวนการสร้างความมั่นใจในคุณภาพการศึกษา ได้แก่ Q-Coach และ Q-Info ๓.๒) ภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม ได้แก่ Q- Classroom, Q-PLC และ ๓.๓) เครื่องมือและนวัตกรรมที่เหมาะสม (๓) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการศึกษาและสร้างโอกาส ทางการเรียนรู้ในวิกฤตการณ์โควิด-๑๙ เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนบ้านหุบบอน พบว่า ครูผู้รับผิดชอบ และคณะทำงานได้ปฏิบัติงานตามแผนที่กำหนด โดยในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สู่ผู้เรียน ได้มีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษา ทำให้ครูมีความมั่นใจการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ทั้งนี้ยังได้รับ ความร่วมมือจากปราชญ์ท้องถิ่น นักเรียนมีแหล่งเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น และได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ (๔) ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการศึกษาและสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ในวิกฤตการณ์โควิด-๑๙ เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนบ้านหุบบอน พัฒนาคุณภาพการศึกษาได้สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤติโควิด-๑๙ ได้ มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด นักเรียนและผู้ปกครองของโรงเรียนบ้านหุบบอนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ ระบาดของโรคโควิด ๑๙. นนทบุรี: คิวแอดเวอร์ไทซิ่ง, ๒๕๖๓.
กระทรวงศึกษาธิการ. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๒.
กระทรวงศึกษาธิการ. หลักการในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์โควิด-๑๙. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๖๓.
ชัชวาลย์ เรื่องประพันธ์. สถิติพื้นฐาน. พิมพ์ครั้งที่ ๕. ขอนแก่น: ขอนแก่นการพิมพ์, ๒๕๔๓.
ชีพสุมน รังสยาธร และ สุภาพ ฉัตราภรณ์. การวิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยด้วยโปรแกรม SPSS for Windows. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ๒๕๔๑.
ชูชีพ อรุณเหลือง. “การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยการสร้างเครือข่ายและการ มีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นที่มีผลต่อการยกระดับคุณภาพสถานศึกษา: กรณีศึกษา วิทยาลัยการอาชีพแกลง”. ระยอง: วิทยาลัยการอาชีพแกลง, ๒๕๕๘.
โชษิตา ศิริมั่น. “ทักษะการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารในภาวะวิกฤตโควิด-๑๙ ของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๑". รายงานการประชุมวิชาการ ระดับชาติ วิทยาลัยนครราชสีมา ครั้งที่ ๘ ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๔. นครราชสีมา: วิทยาลัยนครราชสีมา, ๒๕๖๔.