Guidelines for Library Management in the 21st Century According to Sappaya 7 of Secondary Schools in Saraburi Province -
Main Article Content
Abstract
Abstract
The objectives of this research were: 1) to study the status of the library management of the secondary schools, and 2) to study the guidelines for the library management of the secondary schools according to Sappaya 7. This research applied Mixed Methods Research. The sample was 417 school administrators, teacher-librarians, and students from 21 schools in Saraburi Province. The research instruments were the questionnaire and the Semi-structured Interviews. The reliability tests were .97. The statistics used percentage, mean, and standard deviation and collected the transcripts of formal interviews from 13 informants. This research used content analysis to examine the data.
The research results were as follows:
- The status of the library management of the secondary schools according to Sappaya consisting of 4 aspects found that overall, it was at a high level (X = 3.96, S.D.= 0.58). When considering each aspect, it was found that the personnel was at the highest level (X = 4.13, S.D.= 0.50). The second was the information resource at a high level (X = 3.93, S.D.= 0.56). The third was the environment at a high level (X = 3.91, S.D.= 0.60). However, the service was at the lowest level. (X = 3.85, S.D.= 0.66).
- The guidelines for the library management of the secondary schools according to Sappaya 7 found that the library management for the 21st century consisted of 1) the information resource according to Sappaya was Bhassa-Sappaya: informing the regulations for the library service to the students, 2) the service according to Sappaya was Bhojana-Sappaya: the library had the food as the knowledge, and searching for the information by the online databases, 3) the environment according to Sappaya was Avasa-Sappaya: the library was the suitable place, comfortable, calm, and safety, Gocara-Sappaya: the library was the resource of knowledge, Utu-Sappaya: the library had the suitable environment and temperature, and Iriyapatha-Sappaya: the people in the library were careful in manner, and 4) the personnel according to Sappaya was Puggala-Sappaya: the library had the teacher-librarians that served friendly and finished in Library Science.
Keywods: The guidelines for the library management; Sappaya 7; the secondary schools
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กนกกร กมลเพ็ชร. "อนาคตภาพห้องสมุดมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของสังคมไทย". ดุษฎีนิพนธ์
ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน. บัณฑิตวิทยาลัย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๙.
กาญจนา หิรัญเกษตร, “การดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ชลบุรี”, วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบรรณารักษ์ศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์, บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๔๙
เฉลียว พันธุ์สีดา, คู่มือการบริหารงานห้องสมุดโรงเรียน,กรุงเทพมหานคร: ต้นอ้อ, ๒๕๔๒
ชนากานต์ สิงห์เรือง, “การบริหารจัดการห้องสมุดตามหลักสังคหวัตถุธรรมของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ
ราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์”, วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการ
บริหารการศึกษา,บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๙
ชาน ซูอัน, โครงการห้องสมุดเด็กในเกาหลี: ห้องสมุดมหัศจรรย์ใน เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ
ประจำปี ๒๕๕๕ TK Conference on Reading ๒๐๑๒ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
๑๒-๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕, [ออนไลน์], แหล่งที่มา: https://www.tkpark.or.th/
tha/papers_detail/38 [๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๓].
โชติมา วัฒนะ, “ห้องสมุดไร้หนังสือ เรียกว่าห้องสมุดได้จริงหรือ”, วารสารสารสนเทศ, ปีที่ ๑๕ ฉบับที่ ๑
(มกราคม-มิถุนายน ๒๕๕๙): ๑-๑๐.
ทวีศักดิ์ จินดานุรักษ์, “นวัตกรรมและสื่อในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่๒๑”, Veridian
E-Journal, Silpakorn University, ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๑ (มกราคม – เมษายน ๒๕๕๙): ๕๖๐-
๕๗๐.
ธีรโชติ เกิดแก้ว, “สัปปายะ ๗ : หลักการจัดระเบียบเพื่อความสมดุลของครอบครัว/สังคม”, วารสาร มฉก.
วิชาการ, ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๑๕, (๒๕๔๗) : ๘๐-๙๒.
น้ำทิพย์ วิภาวิน. การใช้ห้องสมุดยุคใหม่. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: เอสอาร์ พริ้นติ้ง แมสโปร
ดักส์, ๒๕๕๐.
ปรีดี ปลื้มสำราญกิจ และดาราพร มาตขาว, “ห้องสมุดในศตวรรษที่ ๒๑”, วารสารวิชาการหอสมุดแห่งชาติ,
ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๑ (มกราคม – มิถุนายน ๒๕๖๑): ๑-๑๖.
พระลิขิต ทินฺนปญฺโญ, “รูปแบบการจัดการสัปปายะในสำนักปฏิบัติธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ไทย”, วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์, ปีที่ ๑๓ เล่ม ๓ (มิถุนายน ๒๕๖๐): ๒๑๗-๒๑๙.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์, “การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ CRP”, รายงานการวิจัย,
คณะครุศาสตร์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๐
วิจารณ์ พานิช, วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ ๒๑, (กรุงเทพมหานคร: ตถาตาพลับ
ลิเคชั่นจำกัด, ๒๕๕๔), หน้า ๕๕.สำนักงานสถิติแห่งชาติ, มาตรฐานสถิติประเทศไทย, [ออนไลน์],
แหล่งที่มา: https://www.nso.go.th /nsoweb/statisticalStandards [๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๓].
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒,
[ออนไลน์], แหล่งที่มา: http://www.nesdb.go.th /Portals/0/news/plan/p12/plan12.pdf. [ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๓].
สุมาลี สังข์ศรี, การจัดการศึกษานอกระบบด้วยวิธีการศึกษาทางไกลเพื่อการศึกษาตลอดชีวิต, (นนทบุรี: โรง
พิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๔๕), หน้า ๑๐.
อาภรณ์ รัตน์มณี, ทำไมระบบการศึกษาไทยจึงพัฒนาช้า, [ออนไลน์], แหล่งที่มา:
http://school8.education.police.go.th/technical/technical05.html [๓๐ ตุลาคม
๒๕๖๓].
อุทัย ทุติยะโพธิ. “การพัฒนาศักยภาพของหองสมุดสถาบันอุดมศึกษา” รายงานการสัมมนาความร่วมมือระหวางหองสมุดสถาบันอุดมศึกษาครั้งที่ ๗ ขายงานหองสมุด : ระดับนานาชาติ ระดับภูมิภาค และระดับชาติ. กรุงเทพมหานคร: คณะอนุกรรมการพัฒนา หองสมุดสถาบันอุดมศึกษา ทบวงมหาวิทยาลัย, ๒๕๓๒.