ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดของพระภิกษุตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๐

Main Article Content

กุลวดี ณ นคร
ประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ
วรพจน์ ถนอมกุล

บทคัดย่อ

         สภาพสังคมในปัจจุบันมีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก การติดต่อสื่อสารหรือการค้นหาข้อมูลต่างๆจะมีการกระทำผ่านทางสื่อออนไลน์ ทั้งผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ และในปัจจุบันการเผยแผ่พุทธศาสนามีการใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือสำคัญในการเผยแผ่หลักคำสอนได้อย่างกว้างขวาง ไม่เฉพาะแต่ในราชอาณาจักรไทย แต่ยังสามารถเผยแผ่ไปไกลได้ทั่วโลกด้วยวิธีการที่สะดวก ง่าย และรวดเร็วดังนั้น การใช้สื่อออนไลน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูง แต่อย่างไรก็ตามการใช้สื่อออนไลน์ของพระภิกษุนั้นยังไม่มีมาตรการในการควบคุม เพราะถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพ
ภายใต้รัฐธรรมนูญที่บุคคลจะสามารถใช้สิทธิของตนเองกระทำการอันไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย และไม่ขัดต่อศีลธรรมหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อพระภิกษุถือเป็นบุคคลกลุ่มหนึ่งในสังคมที่สามารถเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ได้ง่ายเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป โอกาสในการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๐ จึงอาจเกิดขึ้นได้ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ซึ่งการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯนี้ มีการกำหนดโทษทางอาญา ทั้งจำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อพระภิกษุกระทำความผิดตามที่บัญญัติไว้ พระภิกษุรูปดังกล่าวอาจต้องรับโทษทางอาญา จำเป็นต้องถูกบังคับสึกจากสมณเพศ ทั้งที่การพิสูจน์ความผิด ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ อาจจำเป็นต้องใช้เวลาในการรวบรวมและตรวจสอบพยานหลักฐาน  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ที่จะยืนยันตัวผู้กระทำผิดนั้น เป็นพยานหลักฐานที่แตกต่างไปจากพยานวัตถุทั่วไป การพิสูจน์ให้แน่ชัดเสียก่อนว่าพระภิกษุรูปนั้นเป็นผู้กระทำผิดจริง  จึงเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนกว่าความผิดอาญาโดยทั่วไป และพระภิกษุยังต้องอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๓๕ อีกด้วย


         ดังนั้น ความรับผิดทางคอมพิวเตอร์สำหรับพระภิกษุจึงมีความซับซ้อน การบัญญัติกฎหมายหรือระเบียบเพิ่มเติมเพื่อใช้เฉพาะกรณีพระภิกษุต้องรับผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯนั้น จึงมีความจำเป็น และ การจัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบกำกับดูแลการใช้งานคอมพิวเตอร์ของพระภิกษุจะช่วยให้ลดปัญหาการละเมิดสิทธิของพระภิกษุจากการต้องสึก
จากสมณเพศทั้งที่ในบางครั้งยังไม่เป็นอาบัติหนักตามโทษทางพระวินัยและยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ การมีเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะที่มีอำนาจและมีความรู้ความเชี่ยวชาญจะช่วยทำให้ลดปัญหาดังกล่าว และสามารถจัดการปัญหาที่เกิดจากการใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์ของพระภิกษุได้ รวมทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจแก่พระภิกษุในการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อช่วยดำรงพุทธศาสนาให้ยังมีความน่าเลื่อมใสศรัทธาและสืบสานพุทธศาสนาต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ณ นคร ก., ลิ่มประเสริฐ ป., และ ถนอมกุล ว. . “ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดของพระภิกษุตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๐”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, ปี 12, ฉบับที่ 2, กรกฎาคม 2025, น. 298-15, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/view/278066.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กุลธิดา อาธิเจริญสุข. “การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับฟิชชิ่ง”. วารสารรามคำแหง ฉบับนิติศาสตร์. ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๒ (กรกฎาคม – ธันวาคม): ๒๕๖๐.

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕.

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐.

สราวุธ ปิติยาศักดิ์. คำอธิบาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๐. กรุงเทพมหานคร: นิติธรรม, ๒๕๖๓.

สาวตรี สุขศรี. กฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์. กรุงเทพมหานคร: โครงการตำราและเอกสารประกอบการสอน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๖๓.

Pusit Sukchuai [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.wongnai.com/articles/thai-cyber-law.