The study of the Potentialities of Buddhist-Based Tourist Attractions in Chiang Rai

Main Article Content

narong jenjai
Ranida Mingmoung
Lelah Tri-aekanukul
Janjira Wichai

Abstract

         The main purpose of this research aimed to scrutinize the potentialities of Buddhist-based tourist attractions in Chiang Rai and based on the mixed method for data collection, a questionnaire on the assessment of 5 aspects of tourism potentialities selected by the accidental sampling technique was conducted with 524 tourists visiting the Buddhist-based tourist attractions in Chiang Rai. The data were statistically analyzed using percentage, mean, and standard deviation.


         The research findings revealed that all the 5 major aspects of assessing tourist attractions in Chiang Rai, with its mean of 3.58, were mostly found in terms of its location with its mean of 4.53, followed by its tourist attractions with its mean of 3.97, its accessibility with its mean of 3.54, its tourism promotion activities with its mean of 3.39, and its facilities with its mean of 2.46.

Article Details

How to Cite
jenjai, narong, R. . Mingmoung, L. Tri-aekanukul, and J. Wichai. “The study of the Potentialities of Buddhist-Based Tourist Attractions in Chiang Rai”. Mahachula Academic Journal, vol. 12, no. 2, July 2025, pp. 114-30, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/view/279973.
Section
Research Articles

References

กรมการท่องเที่ยว. แผนยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยว ของกรมการท่องเที่ยว พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๔กรุงเทพมหานคร: วีไอพี ก๊อปปี้ ปริ้น, ๒๕๖๑.

จุฑาภรณ์ หินซุย และ สถาพร มงคลศรีสวัสดิ์. “แนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธกรณีศึกษาวัดประชาคมวนาราม อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด”. วารสารวิชาการการท่องเที่ยวไทยนานาชาติ. ปีที่ ๑๐ ฉบับที่ ๑ (มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๗ ) : ๕๐-๕๘.

ณัฐพล เนียมแก้ว. “พฤติกรรมและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปาง”. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น. ปีที่ ๑๑ ฉบับที่ ๑, (มกราคม – มีนาคม ๒๕๖๐): ๓๐๙-๓๒๓.

พระวิสิทธิ์ ฐิตวิสิทฺโธและคณะ. “การพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงพุทธเพื่อการเสริมสร้างจิตสำนึกสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่”. วารสารพุทธศาสตร์ศึกษา. ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๒, (พฤษภาคม – สิงหาคม ๒๕๕๙): ๘๘.

มาโนช พรหมปัญโญ และคณะ. “แนวทางการเตรียมความพร้อมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาของจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน”. วารสารการบริการและการท่องเที่ยวไทย. ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๒, (กรกฎาคม – ธันวาคม ๒๕๕๖): ๓๖-๔๗.

วงศ์ธีรา สุวรรณิน และคณะ. “การศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของวัดในจังหวัดปทุมธานี”. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.ปีที่ ๘ ฉับบที่ ๓ (กันยายน – ธันวาคม ๒๕๕๗): ๖๓-๘๒.

วสันต์ ชีวะสาธน์. ศาสนสถานในพุทธศาสนา: แหล่งและบทบาท. กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๒.

วัชราภรณ์ ระยับศรี. “พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงพุทธของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยววัดในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานคร”. วิทยานิพนธ์หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต.บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ๒๕๕๑.

สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔), กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, ๒๕๖๐.

สำนักงานเลขานุการวัดพระแก้ว (พระอารามหลวง), สมุดคู่มือการสวดมนต์ทำวัตร. เชียงราย: วัดพระแก้ว (พระอารามหลวง), ม.ป.พ., ๒๕๖๐.

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. “สถิตินักท่องเที่ยวไทย”. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : http://www.mots.go.th. [๑ ตุลาคม ๒๕๖๑].

สำนักงานสถิติเห่งชาติ. สรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นรายจังหวัด พ.ศ.2554 – 2565. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : https://www.nso.go.th/nsoweb/nso/statistics_and_indicators?impt _branch=320. [2 กันยายน 2567].

Tourism Western Australia. “5A’s of Tourism 2008”. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: www.tourism.wa.gov.au/jumpstartguide/totb_๕Asoftourism.html. [๑ ตุลาคม ๒๕๖๑].